Chala Number 6 Hotel ( เชียงใหม่ )

     สวัสดีเจ้า สวัสดีเจียงใหม่ วันนี้มีโรงแรมดีๆ มาแนะนำกันอีกแล้ว ที่นี่ดีจริงๆ นะเลยอยากจะมาแนะนำและพาไปชมรีวิวของที่นี่กัน จะพาไปชมและพูดถึงจุดเด่นของที่นี่ให้เห็นกันชัดๆ เนอะ

” ไม่คิดว่าใจกลางเมืองเชียงใหม่จะมีโรงแรมที่ร่มรื่นขนาดนี้แฝงตัวอยู่ “

     เอาตรงๆ นะ จากที่ได้ไปพักที่นี่เห็นจากข้างนอกนี่ไม่เท่าไหร่ แต่พอเข้ามาข้างในนี้อีกเรื่องเลยนะ คือด้านนอกเป็นเมืองปกติแต่พอเข้ามาด้านในคือเหมือนหลุดเข้ามาในโลกของเมืองล้านนา ที่มีการตกแต่งออกแบบเป็นเอกลักษณ์สไตล์ล้านนาแท้ๆ มีจุดมีมุมต่างๆ ที่ใครเห็นก็ต้องรู้แหละว่าสไตล์แบบนี้มีแต่ทางเหนือเท่านั้นที่เป็นต้นตำรับ และร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ดูเขียวสบายตาทั่วทั้งโรงแรม

” ทำเลที่ตั้งดีเกินคาด ด้านหน้าโรงแรมคือ ถนนคนเดิน ที่ใครมาเชียงใหม่ก็ต้องมาเดิน “

      ออกมาจากประตูโรงแรมก็เจอกับถนนคนเดินที่ใครๆ มาเยือนเมืองเชียงใหม่แล้วก็ต้องมาเดินที่นี่แหละ มีของจำหน่ายเยอะแยะมากมายทั้งของพื้นเมือง เสื้อผ้า ของกิน ของทำมือ อื่นๆ อีกเยอะเลย แต่ถนนคนเดินจะมีเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้นนะ ลองคิดดูว่าถ้าการจะมาเดินถนนคนเดินเชียงใหม่แบบก้าวออกโรงแรมก็ถึงเลยมันดีขนาดไหน เพราะใครเคยเป็นบ้างไม่รู้แต่ผมนี่เจอมาแล้ว คือพักที่อื่นกว่าจะมาที่นี่ได้ค่อนข้างลำบาก อย่างถ้าใครเอารถมาเองบอกเลยว่ามาหาที่จอดแถวนี้ยากมากถึงมากที่สุด ถึงมีที่จอดก็ไม่รู้รถเราจะปลอดภัยมั้ยเพราะที่นั่นค่อนข้างชุลมุนวุ่นวายมาก ครั้นจะไม่เอารถไปก็ต้องคอยมานั่งเรียกรถทั้งไปทั้งกลับยิ่งถ้าซื้อของกลับมาแบบเต็มไม้เต็มมือนะไม่ต้องพูดถึง ถึงเชียงใหม่จะหน้าหนาวแต่เสื้อก็ชุ่มด้วยเหงื่อเหมือนกันนะจ๊ะ

” ทำเลดีงามขนาดแค่ข้ามถนนไปไม่กี่ก้าวก็ถึง วัดเจดีย์หลวง “

    วัดเจดีย์หลวง คืออยู่ตรงข้ามโรงแรมเลยฮะ นี่คือภาพถ่ายจากระเบียงของห้องพักมาให้ดูว่าใกล้กันขนาดไหน นอกจากวัดเจดีย์หลวงข้างๆยังมีวัดพันเตาที่เป็นวิหารไม้สักเก่าแก่เช่นกัน มาพักที่นี่ก็เก็บไปได้แล้ว 2 วัดสบายๆ นอกนั้นยังเดินไปวัดพระสิงห์ก็ไม่ไกล ประตูท่าแพก็เดินไปได้ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ก็แค่นิดเดียว บอกเลยว่าถ้าใครหาโรงแรมดีๆ สวยๆ แถมทำเลทองก็ต้องที่นี่แหละ

ตอนนี้จะพาไปรู้จักโรงแรมนี้ให้มากยิ่งขึ้นฮะ โดยจุดแรกเข้าไปคือล็อบบี้ของโรงแรม เข้าไปไม่ต้องตกใจนะที่จะเจอตุ๊กตาพี่หมีตัวใหญ่หลายๆ ตัวที่แต่งชุดแม้วเป็นชุดประจำชาติของคนทางเหนือเค้า เพราะพี่หมีเค้าคือมัสคอร์ตของโรงแรมนี้แหละ

” สระว่ายน้ำส่วนกลางรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและศิลปะล้านนา “

     สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่คือร่มรื่นและสงบ มองไปทางไหนก็เจอแต่ความเขียวขจีของต้นไม้ทั้งเล็กและใหญ่ แถมยังประดับประดาไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมของทางเหนือตามจุดต่างๆ เหมือนบอกให้รู้ตลอดเวลาว่าเราอยู่เชียงใหม่แล้วนะ 555

ตรงสระว่ายน้ำนี้ใครอยากสั่งเครื่องดื่มหรือขนมมาทานก็สามารถสั่งได้ ทางโรงแรมมีบริการเช่นกัน

ห้องอาหาร ” หลองข้าว “

     ไหนๆ ก็มาตรงสระส่วนกลางของโรงแรมแล้วเนอะ แวะห้องอาหารของโรงแรมก่อนเลยที่เป้นศาลาเด่นสง่าอยู่ข้างๆสระว่ายน้ำนั่นแหละ หลายคนคงสงสัยชื่อห้องอาหารกันแล้วใช่มั้ยว่าหลองข้าวคืออะไร ความหมายก็คือ ยุ้งเก็บข้าวของชาวล้านนาสมัยก่อนนั่นแหละฮะ เอาไว้เก็บข้าวเปลือกไว้กินตลอดทั้งปี นั่นก็หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร โดยห้องอาหารนี้จะแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นบาร์มีโต๊ะพูลไว้ให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย

สวนด้านบนจะเป็นห้องอาหารที่ให้กลิ่นอายความเป็นเมืองเหนือสมัยก่อนแบบเต็มๆ เลยฮะ

เรื่องอาหารเค้าก็มีหลากหลายมากทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นก็ยังมี แต่เมนูที่อยากแนะนำเลยเป็นพวกอาหารไทยและอาหารไทยพื้นเมืองของทางเหนือรับรองไม่ผิดหวังฮะ อาหารที่นี่อร่อยจริง รสชาติจัดจ้านแบบถูกใจคนไทยแน่นอน

อิ่มกันแล้วเนอะ อยากเข้าห้องนอนกันแล้วหล่ะสิ ห้องพักของที่นี่ก็เป็นอีกอย่างที่เป็นจุดเด่นที่ผมอยากจะให้เพื่อนๆ ได้ชมกันนะคือ ห้องพักของเค้าผมว่าสวยและผมชอบเลยนะ คือห้องของที่นี่ไม่ใช่เอาไว้พักแบบธรรมดาแต่อัดแน่นไปด้วยวัฒนธรรมวคามเป็นเมืองเหนือแบบเต็มที่เลย

Deluxe Twin Room และ Deluxe Double Room

     2 type นี้จะเป้นห้องแบบเดียวกันจะต่างกันที่เตียงนะ โดยเนื้อที่ห้องที่โรงแรมให้มาคือ 33 ตร.ม. บอกเลยถือว่ากว้างมากสำหรับห้องเริ่มต้นของเค้า แถมมีอ่างแช่ให้ทุก type ห้องแบบไม่ต้องกลัวน้อยหน้ากัน และลองดูที่กำแพงในห้องนะเค้าจะมีหมวกแขวนอยู่ห้องละ 2 ใบทุกห้องเอาไว้ให้ยืมไปใส่ได้นะจ๊ะ แต่ใส่แล้วต้องเอามาคืนด้วยหล่ะ

Deluxe Private Jacuzzi

     ห้องขนาด 41 ตร.ม. ห้องจะคล้ายๆ type แรกแต่ห้องนี้จะมีอ่างจากุชชี่ไว้ด้านนอกแบบ Outdoor ให้ด้วย สำหรับใครชอบแช่จากุชชี่ต้องเลือกห้องนี้เท่านั้นฮะ อ้ออีกอย่างเรื่องห้องน้ำของที่นี่ ถึงจะมีความเป็นเมืองเหนือสุดๆ แต่สุขภัณฑ์เป็นออโต้แบบของญี่ปุ่นเลยจ้าดีงามมาก

Junior Suite

     ขนาดห้อง 55 ตร.ม. ห้องจะใหญ่ขึ้นมาอีก ห้องค่อนข้างกว้างและพื้นที่ใช้สอยมีเยอะ ขนาดของห้องน้ำก็กว้างขึ้นมาอีกเยอะเลย

Chala Suite Room

     ห้องนี้ขนาด 76 ตร.ม. ถือว่าเป็นห้องที่ผมชอบอีกห้องนึงเลย ถึงห้องจะดูการตกแต่งแล้วไม่ค่อยใหญ่ แต่ก็รู้สึกถึงความสะดวกสบาย ทุกอย่างใกล้ๆ ไม่ต้องเดินไปไหนไกลอย่างห้องน้ำ

Chala Grand Suite Room

     ขนาดห้อง 76 ตร.ม. ห้องนี้จะเป้นห้องที่แบ่งห้องนอนกับห้องนั่งเล่นแยกออกจากกัน ใครที่ชอบห้อง type นี้ต้องรีบจองนะเพราะจำนวนห้องไม่เยอะ

ในส่วนของอามินิตี้ของที่นี่ จะอยู่ภายใต้แบรนด์ WAYA ซึ่งเป็นแบรนด์ของทางโรงแรมเอง ที่นำมาใช้ทั้งในห้องพักและสปาของโรงแรม เป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคสกัดจากธรรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมีและสารเจือปน แถมยังมีกลิ่นหอม ภายใต้คอนเซ็ป Hotel Amenity Luxury Collection นอกจากในห้องพักและสปาแล้ว แบรนด์นี้ยังทำผลิตภัณฑ์น้ำหอมปรับอากาศ ถ้าเราเข้ามาในตัวโรงแรมแล้วได้กลิ่นหอมๆ นั่นแหละของเค้าหล่ะ จะมีกลิ่นอยู่ทั่วของโรงแรม และในห้องพักก็จะเป็นอีกกลิ่นนึงคือ Hokkaido Melon อันนี้ลูกค้าส่วนมากจะชอบกันมาก

โดยจะเห็นวัดเจดีย์หลวงได้จากระเบียงห้องนี้เลย

” สำหรับแขกที่เข้าพักที่นี่ ช่วงบ่ายมีบุฟเฟ่ต์ Afternoon Tea ฟรี “

     ทุกวันตั้งแต่ 14:00-16:00 น. อย่าลืมไปทาน Afternoon Tea ฟรีกันนะโดยในเมนูจะมีทั้งของคาวและหวาน มีบัวลอยให้ทานด้วย เครื่องดื่มที่เด็ดๆ คือชาดอกไม้มีทั้งดอกกุหลาย ดอกอัญชัน และดอกอะไรอีกเยอะเลยจำไม่หมด ซึ่งมันหอมมากและชาเค้าดีจริงแนะนำๆ ต้องลอง

No.6 Restaurant

     อีกห้องของโรงแรมที่จะเรียกว่าเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมบริการอาหารเช้าจนถึงมื้อดินเนอร์เลย ขอพูดถึงเรื่องอาหารเช้าของเค้าก่อนแล้วกันเนอะ เมื่อก่อนคงจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์แต่ตอนนี้เป็นแบบ New Normal ก็จะต้องสั่งเป็นจานๆ ตามเมนูแบบทำใหม่ๆ ข้อดีคือเราได้ทานอาหารแบบปลุกสุกเลย โดยจะมีเมนูให้เลือกเยอะมากถ้าจะให้ดูดก็คงจะเยอะจริงๆ แหละ ให้ดูตามภาพเอาละกันเนอะมีอาหารพื้นเมืองให้สั่งด้วยนะ สั่งได้ไม่อั้นจนกว่าจะอิ่ม

ในส่วนของอาหารมื้ออื่นก็มีบริการเช่นกันโดยเฉพาะมื้อดินเนอร์ ผมก็ยังยืนกรานคำเดินว่าพยายามสั่งเมนูอาหารพื้นเมืองและอาหารไทยเป็นหลักเถอะ อาหารของที่นี่อร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน

WAYA Spa 

     คือสปาของโรงแรม ชื่อก็บอกอยู่ละว่าชื่อเดียวกับอามินิตี้และน้ำหอมที่ใช้ภายในโรงแรมที่เป็นแบรนด์ของโรงแรมเอง ถ้าถามว่าสปาที่นี่ดีมั้ยคงตอบไม่ได้ฮะเพราะยังไม่เคยลอง แต่ระหว่างทางไปสปาน่าถ่ายรูปมั้ยบอกเลยว่าห้ามพลาดเพราะทางเดินเป็นป่าไผ่แบบทางยาวให้ความรู้สึกความเป็นญี่ปุ่นมากๆ เห็นแล้วคิดถึงญี่ปุ่นเนอะ

 

Fitness ของที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกันนะ

 

สรุปปิดท้าย

    Chala Number 6 Hotel ( เชียงใหม่ ) เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่อยากแนะนำจริงๆ ถ้าเพื่อนๆ ชอบโรงแรมที่อยู่ในเมืองและทำเลที่ตั้งดีงาม สะดวกสบาย ชอบโรงแรมที่มีความร่มรื่นผสมผสานกับความเป็นล้านนาอยู่เต็มเปี่ยม ที่นี่คือโรงแรมที่น่าจะตอบโจทย์ของใครหลายๆ คนนะ สำหรับคนไทยอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักที่นี่กันเท่าไหร่แต่สำหรับต่างชาติแล้วที่นี่คือโรงแรมที่พวกเค้าต้องไม่พลาดถ้ามาถึงเชียงใหม่

Comments

comments