” สมุย “ เป็นชื่อที่คนไทยรู้จักกันดีนะ แต่ทำไมคนไทยไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่นี่กันเลย อาจจะเพราะว่าตั๋วเครื่องบินราคาแพงมั้ง แล้วอีกอย่างการเดินทางก็ไม่สะดวกสบายเท่าภูเก็ต คนเลยหันไปเที่ยวภูเก็ตทางทะเลอันดามันกันมากกว่า ก็เลยไม่แปลกใจว่า ทำไมโรงแรมต่างๆ ในสมุยถึงไม่ค่อยเน้นนักท่องเที่ยวคนไทยกันสักเท่าไหร่ จะเน้นชาวต่างชาติซะมากกว่า แต่เชื่อผมเถอะว่าถ้าได้ลองไปสมุยแล้วเพื่อนๆ จะหลงรักเกาะนี้แน่นอน นอกจากทะเลสวยแล้ว แหล่งท่องเที่ยวก็มีเยอะนะ ขนมขึ่นชื่อของที่นี่ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ” กาละแม “

สำหรับการเดินทางมาสมุยครั้งนี้ ผมใช้บริการของสายการบิน Bangkok Airways เพราะสายการบินนี้บินตรงสู่เกาะสมุยเลย เค้ามีสนามบินบนเกาะนี้เป็นของตัวเองด้วย ซึ่งสายการบินโลว์คอสมาไม่ถึงที่นี่หมดสิทธิ์ฮะ และแน่นอนราคาก็ต้องแรงกว่าปกติเช่นกัน เพราะเค้าไม่ต้องบวกนี้นั่นให้ปวดหัวเสียเวลา แถมยังมีเล้าจน์ต้อนรับพร้อมอาหารเครื่องดื่มให้ทานแบบเต็มที่ ( ไม้ตายของเค้าคือข้าวต้มมัดในตำนาน ) แม้กระทั่งอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน

แต่ถ้าใครสู้ราคาไม่ไหว ยอมเหนื่อยหน่อย จะนั่งสายการบินอื่นไปลงที่ จ.สุราษฏร์ธานี ก็ได้นะ แล้วต่อรถบัสหรือรถตู้ไปที่ท่าเรือแล้วข้ามด้วยเรือเฟอรี่ไปเกาะสมุยก็ได้ การเดินทางแบบนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย เสียเวลาเยอะอยู่ แต่ถูกกว่าบินตรง ยังไงเพื่อนๆ ลองหาโปรกันดูละกัน บางทีบวกนู่นนี่นั่นแล้ว ราคาอาจจะถูกกว่าไม่มาก บินตรงไปเกาะเลยจะดีกว่า

บางคนมาเที่ยวสมุยทั้งทีก็อยากจะมาพักผ่อนเพื่อให้กำไรชึวิตกันจริงมั้ย วันนี้ผมเลยเอาข้อมูลของโรงแรม Le Meridien Koh Samui Resort & Spa ( เลอ เมอริเดียน เกาะสมุย ) มาให้เพื่อนๆ รู้จัก เผื่อว่าสักวันนึงเพื่อนๆนึกถึงเกาะนี้แล้วอยากหาโรงแรมดีๆ สักโรงแรมนึงเพื่อเป็นความทรงจำในการพักผ่อนให้กำไรกับชีวิต

เรามาทำความรู้จักกับโรงแรมนี้กันก่อนเนอะ เลอ เมอริเดียน สมุย ติดหาดละไม เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ของเครือ SPG  ที่มีการตกแต่งสไตล์ ไชนีสโอเรียลทอล เวลาที่ทุกคนเข้ามาพักที่นี่จะรู้สึกเหมือนกันเลยว่า โรงแรมจะใฟ้ฟิวลิ่งเหมือนบ้านพักหรือเมืองความเป็นจีนสมัยก่อนตั้งแต่หน้าประตูกันเลยทีเดียว ไม่ต้องแปลกใจฮะเพราะเป็นสไตล์ของเค้า บวกกับภายในโรงแรมที่เน้นถือว่าเน้นสุดๆ กับพวกต้นไม้ เหมือนเรามาพักใจกลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดระยะเวลาการเดินก่อนเข้าห้องพักจะเห็นต้นไม้ตามข้างทางเยอะแยะมากมายทั่วทั้งรีสอร์ท ข้อควรระวังคือ ช่วงหน้าฝนเดินระวังกันนิดนึงผมดันเผลอไปเหยียบหอยทากตัวใหญ่มากนี่สิ สงสารมันมาก

เมื่อเราเดินผ่านประตูมาแล้วก่อนถึงล็อบบี้ ตรงจุดนี้แหละคือไฮไลท์แรกสำหรับที่นี่ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ตรงนี้จะเป็นไฟสลัวๆ ครับ เมื่อมีคนเดินตรงเส้นทางนี้ จะมีตัวเซนเซอร์คอยจับการเคลื่อนไหว แล้วไฟจะเปิดตามทางที่เราเดิน

มาดูส่วนของล็อบบี้กันบ้างฮะ ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของทุกอย่างในโรงแรมเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะห้องสมุด บาร์ สปา ฟิตเนส จะอยู่ตรงนี้แทบทั้งหมด ผมว่าดีนะ บางทีไม่ต้องไปเดินหาให้วุ่นวายทั่วโรงแรม รวมไว้จุดเดียวนี่แหละ สะดวกต่อแขกด้วย

จุดไฮไลท์ของล็อบบี้ก็คือ กิจกรรมของที่นี่เขาจะมีเทศกาลปล่อยโคมลอยทุกวันเวลาประมาณ 19.00 น. พร้อมกับลอยกระทงบนผืนน้ำที่มีดาวนับร้อยนับพันดวง ห้ามพลาดเด็ดขาด

 

สปา 

หลังจากได้ใช้บริการมา 30 นาที ได้ใช้บริการที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ครับ โดยใช้น้ำมะพร้าวอุ่นร้อน  ในการนวดบนตัว ที่มีกลิ่นหอมของมะพร้าวจางๆ ไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายไปในตัว จนเวลา 30 นาทีนี่เหมือน 5 นาทีด้วยซ้ำ

ห้องสมุด

ก็อยู่ตรงล็อบบี้นี่แหละครับ แต่เท่าที่ดูๆ ไม่ค่อยมีคนมาใช้เท่าไหร่ แต่ส่วนมากที่เห็นๆ นะคือเข้ามานั่งพักผ่อนซะมากกว่า

ฟิตเนส

เปิด 24 ช.ม. ครับเพราะเดี๋ยวนี้โรงแรมต่างๆ ก็เปิด 24 ช.ม. กันแทบจะหมดแล้วเนอะ ฟิตเนสห้องไม่ใหญ่ครับ มาลองใช้บริการได้คนไม่เยอะ

เดี๋ยวพาไปชมห้องพักของที่นี่กันเนอะ มีเพียง 77 ห้องเท่านั้น

 

ห้องวีรันดา สวีท

ขนาดห้อง 45 ตร.ม. เป็นห้องเริ่มต้นของที่นี่ครับ อยู่บนชั้น 2 แบ่งแยกห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่นเล็กๆ ไว้ด้านหน้าของห้องตรงทางเข้า

 

ห้องเทอร์เรส สวีท

ขนาดห้อง 50 ตร.ม. ห้องนี้อยู่ชั้น 2 เช่นกันครับ ตัวห้องอาจจะดูเล็กกว่าห้อง type แรก แต่ก็เพราะเค้าเว้นเนื้อที่ให้อ่างแช่ไงหล่ะ

 

ห้องพลั้นจ์ พูล สวีท

ขนาดห้อง 50 ตร.ม. ห้องที่แบ่งสัดส่วนชัดเจนในขนาดห้องที่ไม่ใหญ่มาก ถ้ามาเป็นคู่รักห้องนี้ถือว่าเหมาะในระดับเริ่มต้นเลย แบ่งเป็นส่วนห้องนอน ห้องน้ำต่างหาก แถมกั้นกลางด้วยพูลขนาดย่อมไว้กลางห้อง

 

ห้องพูล แอคเซส สวีท

ขนาดห้อง 50 ตร.ม. ห้อง type นี้เป็นห้องที่ผมพักครับ แต่ไม่ได้พักห้องนี้นะ เพราะแต่ละห้องวิวด้านนอกก็จะต่างกันออกไป อย่างห้องนี้จะเป็นวิวด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำรวมขนาดใหญ่ ที่เอาไว้แชร์สระกันกับห้องอื่น ผมมองว่า ดูไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่ สามารถมองเห็นห้องตรงข้ามได้ด้วย ข้อดีของห้องนี้คือ สามารถเดินลงสระว่ายน้ำจากหน้าห้องได้เลยฮะ

 

แต่วิวห้องด้านนอกของห้องผมโอเคกว่านะ ถ้าใครอยากได้ที่มันส่วนตัวไพรเวทหน่อยๆ เพราะตรงข้ามห้องคือหินขนาดใหญ่

อมินิตี้ที่ให้มาถือว่าครบครับ กลิ่มหอมใช้ได้ ที่สำคัญคือมี ” มีโลชั่นทากันยุง ” ให้ด้วย เพราะโรงแรมเองคงรู้ว่าการตกแต่งของโรงแรมที่เน้นต้นไม้แบบป่าทึบขนาดนี้ ยุงต้องเยอะแน่นอน

จริงๆ ห้องของที่นี่ยังมีอีก 2 type ที่ดีสุดของโรงแรมคือ ห้องพาวิเลี่ยน พูล วิลล่า กับห้อง ห้องโอเชี่ยน ฟร้อนท์ พูล วิลล่า แต่วันที่ผมไปแขกต่างชาติเข้าพักแน่นมากครับ จองกันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนเลยเลยเก็บภาพมาให้ชมกันไม่ได้ฮะ

สระว่ายน้ำของโรงแรมอยู่ตรงหน้าหาดละไมเลยครับ ขอใช้ภาพโรงแรมแล้วกันเนอะ เพราะผมไปฝนตกทั้งวันทั้งคืน ถ่ายสระว่ายน้ำไม่ได้เลย

ตรงสระว่ายน้ำก็มีห้องอาหารหลักและห้องอาหารเดียวของที่นี่ชื่อว่า latest recipe ที่จะรวมอาหารแบบทั้งวัน แม้กระทั่งอาหารเช้าก็ทานที่ห้องอาหารนี้ครับ

 

อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือมื้อ Dinner แบบสุดแสนโรแมนติก ใครอยากจะมาทานอาหารบนท่าเรือของโรงแรมแนะนำต้องจองครับ เพราะว่าที่นั่งไม่เยอะ และแขกโดยเฉพาะต่างชาติชอบและต้องการมุมนี้มากๆ อย่างที่บอกแหละว่าผมไปฝนตกแบบ 360 องศา ไม่มีภาพตรงโซนนี้ให้ดูครับ เลยขอภาพจากโรงแรมมาให้ดูกันแทนละกันเนอะ เผื่อใครไปโชคดีอากาศดีๆ ก็อย่าลืมจองหล่ะ

ก็เลยได้มา Dinner ที่ชั้น 2 ของห้องอาหารแทนครับ ก็ถือว่าโอเคนะ อาจจะไม่สวยเท่าแต่โรงแรมจัดให้ก็หน้าตาดูดีใช้ได้นะ

ส่วนเรื่องอาหารจากการที่ได้ลองทานมาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน รสชาติโอเคสอบผ่าน แต่ผมชอบบางเมนูมีการครีเอทเมนูเป็นแบบฟิวชั่น ซึ่งทานแล้วผมว่ามันโอเคแล้วมันดูเข้ากันดีนะ แต่อาหารบางอย่างรสชาติอาหารจะออกกลางๆ ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนเนอะว่า สมุย คือแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจจะดูเกินเอื้อมกับคนไทยไปบ้าง เนื่องจากราคาค่าตั๋วเครื่องบิน หรือการเดินทาง เพราะฉะนั้นรสชาติอาหารก็จะเน้นสำหรับแขกชาวต่างชาติมากระดับนึง ถ้าเราคนไทยมาทานก็บอกทางเชฟหรือน้องๆพนักงานเค้าหน่อยว่า ขอรสชาติคนไทยนะ อันนี้ไม่ว่ากัน

เรามาดูอาหารเช้ากันบ้างเนอะ

สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ไม่ได้เยอะแยะมากมายจนต้องอุทานว่า โอ้ยตายเลือกกินไม่ถูก อาจจะเพราะว่าจำนวนห้องไม่ได้เยอะมากมายเลยไม่รู้จะเตรียมอาหารเยอะๆ ไปทำไม แต่ก็ถือว่ามีครบทุกอย่าง ไม่ได้น้อยจนน่าเกลียดมีตามที่แขกต้องการก็แล้วกัน ส่วนเรื่องคุณภาพบางอย่างก็ดี บางอย่างก็กลางๆ มาตรฐาน น่าจะโอเคเนอะ

สรุป

จากที่ใช้เวลาอยู่แต่ภายในโรงแรมทั้งหมด ผมว่าถ้าใครชอบโรงแรมที่เน้นดีไซน์การตกแต่งแบบคลาสสิค ความเป็นจีนสมัยก่อนที่เป็นเอกลักษณ์ ความเป็นธรรมชาติที่เน้นต้นไม้ใบหญ้ามากมาย และชื่นชอบความโรแมนติกแบบส่วนตัว ผมว่าที่นี่คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลย

เลอ เมอริเดียน เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา

146/24 หมู่ 4 หาดละไม, มะเร็ต สุราษฎร์ธานี, เกาะสมุย, 84310, ประเทศไทย

•  เบอร์โทรศัพท์: +66 77 960 888  •  Hotel Reservations: 001 800 656 469

www.facebook.com/lemeridienkohsamui

www.lemeridienkohsamui.com

          

Comments

comments