The Naka Island, a Luxury Collection Resort & Spa Phuket
อยู่ดีๆ วันนึง ในหัวก็คิดขึ้นมาว่า เราอยากจะทำอะไรที่มันพิเศษๆ ให้กับคนที่พิเศษๆ คือคนที่เค้าตัดสินใจร่วมทางกับเราไปตลอดทั้งชีวิต ที่ผมพูดนี่ก็หมายถึง ” แฟน ” หรือ ณ ปัจจุบันก็คือ ” ภรรยา ” ของผมนี่แหละฮะ ต้องยอมรับตรงๆ ว่าอันตัวกระผมนั้นก็ไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกสักเท่าไหร่ หรือจะบอกว่าไม่โรแมนติกเลยก็คงจะไม่ผิด
แต่ในเมื่อวันสำคัญวันนึงมาถึง นั้นก็คือวัน ” ครบรอบแต่งงานของพวกเราสองคน ” เอาจริงๆ นะ ผู้ชายอ่ะวันแบบนี้ไม่คิดอะไรมากมายหรอกเนอะว่ามั้ย แต่สำหรับผู้หญิงนี่คือเรื่องใหญ่เลยนา ถ้าเราลืมหรือว่าเราไม่ให้ความสำคัญ จากวันครบรอบแต่งงานก็อาจจะเป็นวันจบชีวิตของคุณก็ได้ 5555 อันนี้ก็เว่อร์เกินไป อาจจะมีงอนมีโกรธกันบ้างแหละ ใครเจอแบบไหนก็เตรียมตัวรับชะตากรรมกันเอาเองละกันเนอะ
ผมเลยคิดว่า ถ้าวันครบรอบวันแต่งงานเราพาแฟนหรือภรรยาของเราไปพักผ่อน หรือไปสวีทสักกะหน่อยกับโรงแรม รีสอร์ทสวยๆ สักที่หนึ่ง บรรยากาศดีๆ คือตัวเราได้พักผ่อนด้วย ได้พาแฟนหรือภรรยาเราได้เที่ยวด้วย และเป็นวันครบรอบอีกด้วย ยิงนกทีเดียวได้นก 3 ตัวเลยนะ เอ้ย !!! ไม่ใช่สิ ได้นก 4 ตัวเลย เพราะจะทำให้เรารอดตายด้วย 555
เอาหล่ะ พอเราตัดสินใจได้ว่าจะพาภรรยาไป ก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญในการตัดสินใจเลือกโรงแรมหรือรีสอร์ท โรงแรมในเมืองไทยมีเยอะมากฮะ แต่ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดทั้งปวง ผมเลือกที่นี่ฮะ The Naka Island, a Luxury Collection Resort & Spa Phuket
ทำไมผมถึงเลือกที่นี่ ? เพราะที่นี่เป็นโรงแรมที่ลักชัวรี่ ซึ่งคำนี้ก็บอกบอกด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว The Naka Island เป็นโรงแรมที่มีหาดส่วนตัว หรืออารมณ์แทบจะคล้ายเกาะส่วนตัวเลยก็ว่าได้เพราะจะมาพักที่นี่ต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทของโรงแรมข้ามมาที่เกาะนี้
ความพีคมันอยู่ที่ตัวโรงแรมที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว ทะเลและหาดสวย ธรรมชาติมาก เงียบสงบ บรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทแห่งนี้บอกเลยว่าโรแมนติกเหมาะกับแฟนหรือคู่รักด้วยประการทั้งปวง ลองคิดให้ดีๆ มีโรงแรมในภูเก็ตสักกี่โรงกันที่จะได้ความรู้สึก ให้ฟีลลิ่งแบบนี้ เรียกว่าหายากเลยนะ นี่แหละคือเหตุผลว่า ทำไมผมถึงตัดสินใจเลือกที่นี่ บางคนอาจจะไม่เห็นภาพเดี๋ยวเรามาดูรีวิวไปพร้อมกันว่าเป็นอย่างที่ผมพูดมั้ย
การเดินทางมาที่นี่ถ้าจากสนามบินภูเก็ตประมาณครึ่งชั่วโมงครับเพื่อมาที่ “ท่าเรืออ่าวปอแกรนมารีน่า” เพราะที่นี่จะเป็นจุดขึ้นเรือสปีดโบ๊ทของทางรีสอร์ทฮะ ใช้เวลาเดินทางโดยเรือประมาณ 5-10 นาที ก็จะถึงตัวรีสอร์ทที่อยู่บนเกาะนาคาใหญ่
ถ้าให้ผมแนะนำนะ ตรงท่าเรือเนี้ยอยากให้เพื่อนๆ ทิ้งทุกอย่างไปให้หมดตรงท่าเรือนี่แหละ ทั้งความเครียดจากงาน จากอะไรต่อมิอะไร ทิ้งไว้ที่ท่าเรือนี่แหละฮะ แล้วเราจะข้ามไปพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ กลับมาค่อยมาเก็บสิ่งที่เราทิ้งไว้ไปแก้ไขกัน
พอมาถึงก็มีจุดให้ถ่ายภาพกันละฮะ คือสะพานไม้ท่าเรือส่วนตัวของทางรีสอร์ทนี้เองที่ทอดยาวเข้าไปถึงตัวรีสอร์ท โดยทางโรงแรมจะรถบั๊คกี้มารับตั้งแต่เราลงเรือเลย ไม่ใช่ให้เราเดินเข้าไปเองนะ
อากาศร้อนๆ อย่างนี้ให้ภรรยามานอนอาบแดดซะหน่อย ( รูปนี้ใช้โดรนถ่าย )
พอรถบั๊คกี้มาส่งก็ตรงจุดสุดสะพานไม้ท่าเรือก็จะเห็น ” ฆ้อง ” ขนาดใหญ่ครับ ใหญ่ขนาดนี้ที่เห็นก็ในวัดนี่แหละที่มี แต่ที่นี่ก็มีเหมือนกัน เพราะคำว่า ” นาคา ” หมายถึง ” พญานาค ” การที่เราตีฆ้องถือเป็นการทำความเคารพและเป็นการบูชาพญานาคของที่นี่ครับ
ตรงจุดนี้จะมีห้องรับรองไว้ต้อนรับแขกที่มาหรือกำลังจะกลับ เป็นห้องแอร์นั่งสบายไม่ต้องกลัวร้อนหรือไม่มีที่นั่งไว้รับรองนะฮะ
จากนั้นรถบั๊คกี้ก็จะพาเรามาในส่วนหลักของรีสอร์ท ที่จะรวบรวมกิจกรรมแทบจะทั้งหมด สระว่ายน้ำส่วนกลาง ห้องอาหาร 2ห้อง ฟิตเนส คิดส์คลับ รวมทั้งล็อบบี้ที่เราจะเช็คอิน เช็คเอ้าท์ ก็ตรงจุดนี้แหละฮะ
จากจุดนี้เราจะสามารถเห็นท่าเรือที่เราได้ข้ามมากันเลยทีเดียว
ไฮไลท์หลักของที่นี่ก็คือสระว่ายน้ำส่วนกลางกับวิวริมทะเลสวยๆ บนเกาะครับ จะแบ่งเป็น 2 ระดับคือสระของผู้ใหญ่และของเด็กครับที่ซ้อนกันอยู่ ตรงจุดนี้แหละฮะที่เป็นจุดรวมของแขกที่มาพักเลย จะมีแขกมาใช้บริการเล่นสระว่ายน้ำ อาบแดดแทบทั้งวันเลยทีเดียว ดูวิวจากสระว่ายน้ำแล้วตัดสินใจกันเอาเองนะว่ามันโอหรือไม่โอ
ตรงสระว่ายน้ำนี่แหละครับ ที่เป็นจุดถ่ายรูปได้อย่างดีเลย จุดนี้สระว่ายน้ำกับวิวเค้าสวยมากจริงๆ ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้สั่งให้ภรรยาเราทำอะไรต่อมิอะไร หลังจากภรรยาสั่งเรามาตลอด 55 ตรงส่วนกลางนี้ภรรยาผมชอบมาก เพราะเค้าได้รูปไปเยอะมากครับ
นอกจากสระว่ายน้ำจะน่าเล่นแล้ว หาดทรายกับทะเลหน้าหาดส่วนตัวของรีสอร์ทนี่ก็เป็นอีกจุดนึงที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงฮะ บางทีการมานั่งรับลมทะเล มองสีน้ำทะเลสวยๆ ฟังเสียงคลื่นซัดหาดทรายเบาๆ และมีหนังสือดีๆ สักเล่ม เครื่องดื่มเย็นๆสักแก้ว ก็ทำให้มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเนอะ
ห้องที่ผมได้พักคือห้องที่เป็น ” ซีวิว พูลวิลล่า ” เป็นห้องที่มีขนาดเนื้อที่ใหญ่มากครับ แบ่งสัดส่วนห้องนอนตรงด้านหน้าเห็นวิวทะเล และเป็นประตูออกไปด้านหน้ามีสระพูลขนาดกำลังดี เอาไว้ลงไปแช่ดูพระอาทิตย์ตกได้ด้วย ในส่วนของห้องน้ำมีห้องสตรีมรูมส่วนตัว แถมยังมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ให้อีกด้านใน
ในรีสอร์ทถ้าวัดจากสัดส่วนของห้องพักที่เป็นพูลวิลล่าแล้วเป็นห้องที่มีมากสุดในรีสอร์ทครับ แต่จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ แบบแรกก็อย่างที่ผมได้พูดไปก็คือห้องที่ผมพัก ส่วนอีก 2 แบบก็แทบจะเหมือนหรือคล้ายกับห้องที่ผมพักเลย แต่จะต่างกันที่
- ทรอปิคอล พูลวิลล่า จะไม่เห็นวิวทะเลครับ จะเป้นวิวสวนกับต้นไม้
- บีชฟร้อน พูลวิลล่า ห้องแบบนี้จะเห็นวิวทะเลเหมือนกันครับ แต่จะเห็นวิวทะเลไม่สวยเท่าห้องซีวิว แต่จะได้ความใกล้ทะเลมากกว่า
โดยเฉพาะในตัววิลล่านี่จะมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เราสามารถใช้เวลาแทบทั้งหมดพักผ่อนในตัววิลล่าได้เลยฮะ อย่างแฟนผมนี่อยู่แต่ในวิลล่าพักผ่อนนี่แหละครับ ไม่ต้องออกไปไหนเลย นั่งดื่มอะไรเย็นๆ มองวิวเพลินๆ หรือเล่นน้ำก็ได้
อมินิตี้ของที่นี่ใช้ของ THANN ซึ่งเป้นยี่ห้อที่ผมค่อนข้างชอบอยู่แล้ว ของที่นี่มีกลิ่นคล้ายๆ ตะไคร้หอมครับ
ส่วนเวลคั้มฟรุ๊ตจะเป็นผลไม้อบแห้งกับคุกกี้ มาแทนผลไม้สด
จุดน่ารักอีกอย่างนึงที่ไม่บอกก็คงไม่ได้คือด้านหน้าห้องเราจะมีหินแบบนี้ไว้เป็นสัญลักษณ์ฮะ ว่าถ้าไม่อยากให้ใครรบกวนให้พลิกฝั่งที่ปิดตาว่าห้ามรบกวน ส่วนถ้าจะให้มาทำห้องก็เปิดตาไว้ครับ
เรามาดูส่วนของห้องพักที่เป็นแบบอื่นกันบ้างเนอะ
Deluxe room
ถือว่าเป็นห้องพักแบบเริ่มต้นที่มีขนาดใหญ่ และกว้างมากมาย เท่าที่สังเกตเห็นคือห้องพักที่นี่ค่อนข้างจะส่วนตัวมากๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งห้องเริ่มต้นของเค้า
Grand Deluxe room
ห้องจะคล้ายห้อง Deluxe แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าทุกส่วนเลย ห้องน้ำกว้างกว่า พื้นที่ใช้สอยมีเยอะกว่า มีที่อาบน้ำกลางแจ้งให้ด้วย
Grand Deluxe Terrace Room
เป็นห้องที่มีแค่ห้องเดียวของโรงแรม คล้ายๆห้อง Grand Deluxe room แต่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า และมีน้ำล้อมรอบตัววิลล่า
One-Bedroom Suite
เป็นห้องที่มีพื้นที่เยอะมาก แบ่งเป็น 2 ชั้น สามารถพักได้สูงสุดถึง 4 คน
รอยัลฮอไรซัน
คือห้องพักที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ครับ แพงสุด ใหญ่สุด และวิวสวยสุด แต่วันไปผมสามารถถ่ายภาพมาให้ชมได้แค่มุมนี้ครับ เพราะแขกเพิ่งจะเช็คเอ้าท์ออกไป ห้องยังไม่เรียบร้อย แต่อีกไม่นานได้ข่าวว่าห้องนี้จะรีโนเวทใหม่ หน้าตาจะเป็นยังไงถ้ามีโอกาสจะเอามาให้ชมกันครับ
Z Bar
เป็นบาร์ของที่นี่ที่อยู่บนเขาหน่อยๆ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ และเห็นวิวทะเลกว้างๆ ได้จากมุมนี้ฮะ บาร์แห่งนี้จะเน้นเครื่องดื่มเป็นหลัก และจะเน้นอาหารแบบทานเล่นไม่หนักท้องมาก ( แต่ที่ทานไปก็อิ่มเหมือนกันนะ ) อาหารกับเครื่องดื่มโดยรวมอร่อยใช้ได้ครับ
ด้านล่างของบาร์สามารถเดินลงมาถ่ายรูปเล่น ตอนพระอาทิตย์ตกก็ได้ด้วยฮะ
My grill
เป็นห้องอาหารเน้นเป็นดินเนอร์ช่วงเย็นๆ ตรงจุดนี้วิวก็สวยนะ เห็นพระอาทิตย์ตกด้วยเหมือนกัน แนะนำถ้าจะเอาแบบโรแมนติกต้องนั่งด้านล่างที่เล่นระดับดีกว่า ตรงนี้ต้องจองนะฮะเพราะมีแค่ 4 โต๊ะเอง
ตัวห้องอาหารจะเน้นอาหารหนักๆ ตามชื่อเลยก็คือ จะเน้นพวกอาหารปิ้ง ย่าง เป็นหลัก อาหารโดยรวมรสชาติกลางๆ บางอย่างก็อร่อยเลยนะสำหรับผม ยิ่งผมไปโดนเจ้า โทมาฮอว์คเนื้อ ถึงกับไปไม่เป็นเลย คือชิ้นใหญ่มากจริงๆ ต้องทานประมาร 3 คนกำลังดี
ห้องอาหารต้นไทร
เป็นห้องอาหารแบบ all day ที่สามารถมาทานอาหารได้ทุกเวลาครับ รวมทั้งห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารไว้ทานอาหารเช้าที่เป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย และบางวันตอนเย็นที่นี่ก็เป็นห้องอาหารจัดบุฟเฟ่ต์ด้วยเหมือนกัน
ถ้ามาทานห้องอาหารนี้แนะนำพวกเมนูอาหารทะเลและพวกอาหารไทยครับ
สำหรับเมนูอาหารเช้าที่เป็นบุฟเฟ่ต์ของที่นี่จะบอกไงดี คือจะบอกว่าเยอะก็เยอะนะ แต่ผมอาจจะเคยเจอโรงแรมที่อาหารเช้าเยอะและอลังการกว่านี้ด้วยมั้ง ถ้าถามว่าอาหารเช้าที่นี่โอเคมั้ย ก็โดยส่วนตัวคิดว่าโอเคนะ แต่ไม่ได้ถึงกับขั้นต้องร้องว้าว เอาเป็นว่าไปลองชมกันเองดีกว่าเนอะ
แต่ที่ชอบอาหารเช้าของที่นี่เพราะเค้ามีให้เราสั่ง สเต็กเนื้อ ด้วยนะสามารถสั่งได้แบบไม่อั้นด้วยแหละ ตัวเนื้อผมชอบนะไม่เหนียวแถมนุ่มใช้ได้เลย แล้วอีกเมนูที่ชอบคือปลาแซลม่อนย่างก็สามารถสั่งได้เรื่อยๆ เหมือนกัน
สปา
ต้องยอมรับว่าสปาของที่นี่ถือว่าสวยอลังการ มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แต่นวดดีมั้ยตอบไม่ได้ครับ ไม่ได้เข้าไปทดลอง
ตรงทางเข้าสปาจะมีซุ้มป่าไผ่ ถ้าไม่ได้ทำสปา แต่มาหามุมแชะภาพมุมนี้ก็ยังได้ภาพสวยๆ
ฟิตเนส
เปิด 24 ช.ม. อยู่ข้างๆ กับสระว่ายน้ำส่วนกลาง
ตรงแถวสระว่ายน้ำส่วนกลาง ประมาณ 14.00 น. – 17.00 น. มีแจกไอติมฟรีครับ แบบไม่อั้นจะกินกี่โคนก็ได้ ลองดูสิว่า 3 ช.ม. จะกินได้เท่าไหร่น้า จะบอกว่าไม่ใช่ไอติมแบบขอไปทีนะ ไอติมเค้าอร่อยด้วย ที่ผมได้ลองมีทั้งรสมะพร้าว มะม่วง เสาวรส อร่อยหมดจริงๆ ครับ
คิดส์คลับ
ห้องมีขนาดเล็ก มี PS4 ให้เล่นก็จริง แต่อาจจะไม่เน้นเท่าไหร่เพราะตัวโรงแรมมีแอคทิวิตี้อื่นๆ ให้ทำอีกเยอะ
ยังมีห้องเอาไว้ให้เราอ่านหนังสือ หรือยืมหนังสือไปอ่านด้วยครับ
สรุป
ถ้าใครชอบความเป็นธรรมชาติ ความสวยงามของทะเลหาดทราย และความเงียบสงบ โรแมนติก มีหาดส่วนตัวเหมือนกับมีเกาะส่วนตัวเลยก็ว่าได้นะ ที่นี่เหมาะมากกับคนที่คิดว่าจะมาพักผ่อนแบบจริงๆ จังๆ ไม่อยากเจอความวุ่นวาย ใช้ชีวิตเหมือนเราติดอยู่บนเกาะสวาทหาดสวรรค์ โดยเฉพาะคู่รักหรือแฟน ที่นี่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงโดยไม่ต้องสงสัยเลย
076 371 400
www.nakaislandphuket.com
www.facebook.com/thenakaisland
ทริปนี้เราเดินทางไปและกลับภูเก็ตด้วยสายการบิน นกแอร์ ครับ ที่เห็นๆ เลยนะคือทั้งไปและกลับไม่มีดีเลย์ฮะ และราคาช่วงโปรโมชั่นราคาก็น่ารักด้วย
เที่ยวบินขากลับจากภูเก็ตที่จะมากรุงเทพ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยคือ น้องยูเหมือนกระดูกแขนหลุด ก็ไม่รู้ว่าไปหลุดตอนไหน ก็ใกล้เวลาจะเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ผมตัดสินใจทิ้งตั๋วเพื่อพาลูกไปหาหมอในตัวเมืองภูเก็ต ส่วนกระเป๋าที่โหลดลงเครื่องไปแล้วพนักงานก็ได้ประสานงาน ณ เวลานั้นผมไม่ได้สนใจกระเป๋าแล้วครับ คุยกับเจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นานผมรีบนั่งรถ taxi ไปโรงพยาบาลโดยทันที สักพักพนักงานของนกแอร์ก็โทรมาว่ากระเป๋าได้นำลงมาแล้วครับ ให้มาติดต่อที่ออฟฟิศด้านบนชั้น 3 ถือว่ารวดเร็วใช้ได้เลยครับ
Comments
- Tags:
- a Luxury Collection Resort & Spa Phuket,
- hotel phuket,
- resort phuket,
- romantic phuket,
- The Naka,
- The Naka Island,
- ที่พักภูเก็ต,
- ที่พักหาดส่วนตัว,
- ที่พักเกาะส่วนตัว,
- ที่พักโรแมนติก ภูเก็ต,
- รีสอร์ท เกาะส่วนตัว ภูเก็ต,
- รีสอร์ทภูเก็ต,
- รีสอร์ทหาดส่วนตัว,
- รีสอร์ทเกาะส่วนตัว,
- รีสอร์ทโรแมนติก ภูเก็ต,
- เกาะส่วนตัว ภูเก็ต,
- เดอะนาคา,
- โรงแรม เกาะส่วนตัว ภูเก็ต,
- โรงแรมภูเก็ต,
- โรงแรมหาดส่วนตัว,
- โรงแรมเกาะส่วนตัว,
- โรงแรมโรแมนติก ภูเก็ต
1 comment
fuerway
van Leeuwen The Comprehensive Cancer Centers TAMARISK group buy cialis online no prescription