My Ozone Khao Yai ( มาย โอโซน เขาใหญ่ )

     อีกหนึ่งรีสอร์ทที่ผมกล้าพูดเลยว่า ” สวยที่สุดในเขาใหญ่ ” จากที่ผมเคยไปมาแล้วจริงๆ โดยส่วนตัวอาจจะไม่เคยได้ไปเยอะแยะอะไรนักกับที่พักหรือโรงแรมบนเขาใหญ่เนี้ย แต่ผมกล้าบอกเลยว่าที่นี่คงไม่เป็นสองรองใครแน่นอนเรื่องความสวยงาม แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่คำพูดของผมคนเดียวนะ มันคือความรู้สึกของผมเอง คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วยกับผมก็ได้

     

สำหรับผมถือว่าการมาเยือนที่นี่เป็นครั้งที่สองละ ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วนี้เอง ต้องยอมรับว่าครั้งนั้นทุกอย่างยังไม่เสร็จและไม่เข้าที่สักเท่าไหร่ แต่มาปีนี้ที่นี่เสร็จสมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะสระว่ายน้ำส่วนกลางตอนนั้นมายังไม่มีให้ใช้ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยพร้อมไว้ให้บริการละ และอีกไม่นานแว่วๆ ว่าที่นี่จะไปเป็นแบรนด์ของ ”  Mövenpick “ แล้วนะเออ

ถ้าให้คำนิยาม ที่นี่คือปราสาทในเทพนิยาย หรือวังสไตล์ยุโรป ที่ไม่ใช่มีทีเด็ดเรื่องการออกแบบตกแต่ง แต่มีดีเรื่องอากาศและทำเลที่ตั้งที่เห็นภูเขาอันกว้างใหญ่โดยไม่มีอะไรมาบดบังแบบ 180 องศา

กับพื้นที่ที่เรียกว่าขนาดใหญ่จนคาดคะเนเนื้อที่กันไม่ออกเลยทีเดียวว่าที่นี่มีเนื้อที่กว้างขวางขนาดไหน สวยไม่สวยดูภาพกันเอาเองเนอะว่าสวยถูกใจกันรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนแรกเห็นไม่คิดว่านี่จะเป็นรีสอร์ทนะ เหมือนจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซะด้วยซ้ำไป

ผมก็เคยสงสัยเหมือนกันนะว่า ที่นี่ห้องพักราคาไม่ได้แพงเลย ถ้าเทียบกับวิว ห้องพัก บรรยากาศโดยรอบ สำหรับราคาเท่านี้แล้วได้แบบนี้ถือว่าโอเคเลยนะ แต่เท่าที่สังเกตไม่ค่อยเห็นว่าคนรู้จักที่นี่กันสักเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่าการเดินทางมาที่นี่จะไกลออกมาหน่อยจากแหล่งที่คนชอบไปเที่ยวกัน แยกตัวออกมาไม่ได้ไปอยู่กระจุกกับเค้า ก็เลยอาจจะมองว่าที่นี่ไกลด้วยมั้ง สิ่งที่เห็นหลักๆ เลยที่เป็นจุดอ่อนของที่นี่คือร้านอาหารโดยรอบ (เห็นมีอยุ่ร้านนึงใกล้กับรีสอร์ทแต่ไม่รู้โอเคมั้ย) กับร้านสะดวกซื้อพวก 7-eleven ต้องซื้อเตรียมเข้ามากันเองนะ แถวใกล้ๆ รีสอร์ทไม่มีจ้า

และนี้ก็คือวิวที่มองออกไปจากรีสอร์ทแห่งนี้ที่จะหารีสอร์ทไหนเทียบได้ในเขาใหญ่ เรียกว่ามีน้อยมากๆ  อาจจะเพราะที่นี่เป็นสนามกอล์ฟด้วยมั้งและยังเป็นฑรรมชาติอยู่มาก เลยทำให้เนื้อที่กว้างและเห็นวิวแบบโอเพ่นได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นรีสอร์ทก็ถือว่าเป็นรีสอร์ทที่วิวอลังการ ถ้าเป็นสนามกอล์ฟก็ถือว่าเป็นสนามกอล์ฟที่วิวอลังการงานสร้างเช่นกัน

คนมาพักแบบไหนดีถึงจะเหมาะกับรีสอร์ท ขอตอบว่าที่นี่ได้หมด ทั้งแบบคู่รัก แบบเพื่อนฝูง หรือแม้กระทั่งแบบครอบครัวก็เหมาะทั้งนั้น ถึงจะไม่มี Kids Club ให้น้องๆ หนูๆ ใช้ก็เถอะ แต่แค่ที่รีสอร์ทมีก็เล่นเอาหนูๆ เหนื่อยกันได้เลยหล่ะ ความกว้างขวางของรีสอร์ท และมุมถ่ายรูปต่างๆ ไว้อัพโซเชียลหรือถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถือว่าที่นี่มีให้คุณเยอะมาก

ตัวสระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ทที่อยู่ท่ามกลางขุนเขา ติดกับตัวอาคารหลักถือว่าเป็นสระว่ายน้ำที่มีขนาดใหญ่ แถมยังมีแบบโซนเอ้าท์ดอร์ และ อินดอร์ ไว้ให้ใช้ แถมเป็นจากุชซี่อีกตะหาก 

นอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังได้วิวภูเขาที่เค้ามีด้วย ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยที่ไม่ทิ้งวิวไป ไม่งั้นเสียของแย่

บางคนที่อยากมาพักที่นี่อาจจะมีคำถามว่า อ่าวแล้วถ้ามาพักที่นี่แล้วจะเที่ยวไหนดีหล่ะ ??? ขอตอบเลยแล้วกันนะว่า ถ้าคุณมากพักที่นี่นอกจากที่คุณจะแวะเที่ยวขาไปและกลับแล้ว เอาเวลาเที่ยวอยู่ในตัวรีสอร์ทหน่ะดีที่สุดแล้ว เค้ามีกิจกรรมเยอะ มีให้อาหารสัตว์อยู่ในตัวพื้นที่ของรีสอร์ทเลย ( ตรงนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างหากนะแต่ไม่แพง ) ทั้ง แกะ แพะ หมาป่า ลิง กวาง หรือแม้กระทั่งขี่ม้า 

 จักรยานนี่แนะนำเลยว่าปั่นเถอะ ตัวรีสอร์ทกว้างมากมีอะไรให้ปั่นเที่ยวปั่นเล่นเยอะแยะมากมาย บางรีสอร์ทมีจักรยานให้ยืมแต่รีสอร์ทเล็กก็ไม่รู้จะปั่นไปไหนเหมือนกัน ต่างกับที่นี่ ( มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม )

เข้ามาดูในวัง เอ้ย !!!! ตัวภายในของโรงแรมกันบ้างเนอะ  ล็อบบี้ของที่นี่ไม่มีแอร์นะ แต่แค่ลมที่มีเครื่องปรับอากาศไหนก็ไม่จำเป็นละ ลมแรงมากจริงๆ

Panacee Wellness Center นอกจากที่พูดมาแต่ต้นแล้ว ที่นี่ยังมีสูนย์สุขภาพอยู่ในรีสอร์ทอีกด้วย มีโรงแรมไหนบ้างมั้ยที่เราไปพักผ่อนท่ามกางขุนเขา อากาศดีๆ แหล่งโอโซนของประเทศแล้ว ยังมีที่ให้ตรวจสุขภาพด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้น สำหรับแขกที่มาพักจะได้ตรวจสุขภาพฟรี 1 ท่าน มูลค่า 6,000 บาท ที่เป็นนวัตกรรมมาจากประเทศเยอรมันนี

มาดูส่วนของห้องพักกันบ้างเนอะ คิดว่าเพื่อนๆ คงอยากจะรู้และอยากจะเห็นกันแล้วว่าห้องพักที่นี่เป็นยังไงได้วิวแบบไหน ถ้าให้พูดคือ ห้องพักที่นี่จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนห้องพักบนอาคาร กับ โซนที่เป็นพูลวิลล่า การตกแต่งภายในจะเป็นสไตล์ยุโรปหมดเลย เราดูโซนบนตึกกันก่อน ซึ่งเป็นโซนที่ผมชอบมากกว่าพูลวิลล่าอีก เพราะโซนตัวอาคารจะสร้างเป็นแนวขนานกับวิวภูเขา เพราะฉะนั้นถ้าเราพักด้านชั้น 2 – 3 ของอาคาร ( เพราะตึกมี 3 ชั้น ) ก็จะได้เห็นวิวแบบ 180 องศาเลย

ถ้าให้ผมแนะนำห้องบนอาคาร ขอแนะนำห้อง type นี้ Executive Deluxe ห้องนี้จะมีระเบียงที่เห็นวิวแบบเปิดกว้างมากกว่าห้องเริ่มต้น

ส่วนห้องเริ่มต้นก็จะคล้ายๆ ห้องที่ผมแนะนำแหละ แต่จะต่างกันที่ขนาดนิดหน่อย และการตกแต่ง แต่ที่ต่างกันคือตรงระเบียงห้องเริ่มต้นจะมีเสากั้นบังวิวไปบ้าง

ส่วนห้องน้ำทุกห้องในตัวอาคารแทบจะเหมือนกันหมดเลย

2 bedroom Suite เป็นห้อง 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขกที่มีขนาดกว้างมาก เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ๆ

อเมนิตี้ในห้องน้ำของที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ THANN ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวด้วย

แขกที่มาพักทุกห้องจะเจอกับเจ้าตระกร้านี้เป็นมินิบาร์ ที่ทานฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ส่วนห้องนี้คือเฟทใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ จะเป้นห้องเริ่มต้นเหมือนกันครับ แต่ยังไม่เสร็จ คาดว่าจะเสร็จในเร็วๆ นี้แหละ

มาดูในส่วนของ พูลวิลล่า ที่จะแยกออกไปจากตัวอาคารค่อนข้างไกลเลย เวลาจะมาสระส่วนกลางหรือห้องอาหาร ล็อบบี้ ต้องเรียกรถบัคกี้ หรือจะเดินเอาก็ได้นะ แต่ไกลหน่อยถือว่าออกกำลังกาย สูดโอโซนอากาศดีๆ ละกันเนอะ

พูลวิลล่าจะมีทั้งแบบ 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน ขอเอาภาพ 2 ห้องนอนมาให้ดูกันเนอะ ตกแต่งสไตล์ยุโรปเหมือนกัน เพดานสูง มี 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขกขนาดใหญ่ มีห้องครัว และมีสระว่ายน้ำส่วนตัว

ใครมาพักพูลวิลล่าแล้วขี้เกียจออกไปหรือตื่นสายอยากให้มาเสิร์ฟอาหารเช้าที่พักก็ได้นะ แต่จะค่อนข้างธรรมดาไปนิดนึง แนะนำไปทานห้องอาหารส่วนกลางเถอะดีกว่า

ห้องอาหารเช้าหลักของรีสอร์ทมีที่เดียวครับ แบ่งเป็น 2 โซน

ในส่วนด้านอินดอร์ จะค่อนข้างเรียบๆ  ง่ายๆ 

แต่แนะนำมาทานอาหารเช้าเอ้าท์ดอร์ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ดูจากภาพก็รู้แล้วเนอะว่าเพราะอะไร ยิ่งเป็นเขาใหญ่ไม่ต้องกลัวร้อนฮะ ตอนเช้าช่วงหน้าร้อนของที่นี่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดกัน อากาศจะเย็นหน่อยๆ ลมโกรกตลอดเวลา กับวิวแบบนี้นั่งทานข้าวดื่มชา กาแฟ ไปก่อนเนอะ

ในไลน์อาหารเช้าของที่นี่ถือว่าอยู่ระดับกลางๆ ไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มีทุกอย่างให้ครบ ที่สะดุดสุดๆ คือ นมออแกนิคเพื่อสุขภาพนี่แหละ มีทั้งรสกล้วย เมล่อน เผือก ให้ดื่มได้ไม่อั้นเลย

นอกจากเป้นห้องอาหารเช้าแล้วยังเป็นห้องอาหารที่เปิดบริการทั้งวันมื้ออื่นๆ ด้วยฮะ ถือว่ารสชาติาอาหารใช้ได้เลย โดยเน้นอาหารไทยเป็นหลัก

ใครสาวก ไฮที ที่นี่เหมาะมากจริงกับการนั่งจิบไฮทีเนี้ยในราคาประมาณ 590 บาท / 2 ท่าน แนะนำเช่นเดิม นั่งด้านนอกวิวดีสุดละ

นอกจากชั้นล่างแล้วชั้นบนจะเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสของรีสอร์ท จากที่ได้ลองทานมายอมรับว่ารสชาติอร่อยครับ ถึงจะไม่ค่อยถนัดอาหารแนวนี้เท่าไหร่ก็เถอะ

ในเมื่อเนื้อที่เค้าเยอะเนอะ ไม่แปลกที่เค้าจะมีแปลงผักปลอดสารพิษของตัวเอง ที่เอามาประกอบอาหารให้เราทานๆ กันนี่แหละครับ

สรุปกันสักนิด

     ที่นี่ผมแนะนำแบบออกนอกหน้าเลยว่า ใครสาวกหรือสายเซลฟี่ และชอบที่พักสไตล์ยุโรป ต้องที่นี่แบบไม่ต้องสงสัยฮะ นอกจากตัวอาคารที่ดูเหมือนพระราชวังทางยุโรปแล้ว ธรรมชาติที่เป็นภูเขาขนาดใหญ่และกว้างแบบ 180 องศานี่แหละที่จะสะกดแขกที่มาพักได้แบบอยู๋หมัดเลย แถมสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นมาใหม่ถือว่าทำออกมาได้ดีแถมขายวิวได้ด้วย

     สิ่งที่ผมชอบในรีสอร์ทแห่งนี้นอกจากสิ่งปลูกสร้างและตัวอาคารแล้ว ธรรมชาติและภูมิศาสตร์ที่ตั้งของเค้านี่แหละที่ผมชอบ อย่างวิวและภูเขาที่เราได้พูดกันไปแล้วเนอะ อีกอย่างที่ผมชอบคือ ” อากาศ ” ของที่นี่ฮะ เขาใหญ่จัดว่าเป็นแหล่งโอโซนของเมืองไทย สมกับชื่อเลย My Ozone แม้กระทั่งหน้าร้อนที่นี่ก็ไม่ได้ร้อนเหมือนชาวบ้านเค้า แถมตอนเช้ายังมีอากาศเย็นๆ ให้เราสัมผัสอีกด้วย ใครได้ลองมาพักที่นี่จะรู้เลยว่าในตัวรีสอร์ทมีลมโกรกตลอดเวลา

สำหรับจุดอ่อนของที่นี่ก็มีนะไม่ใช่ไม่มี ตัวรีสอร์ทไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวเขาใหญ่ที่คนชอบๆ ไปเที่ยวกัน ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ รีสอร์ทไม่มีเลยต้องเตรียมเข้ามาเองเนอะ ร้านอาหารดังๆ ใกล้ๆ ก็ไม่มีฮะ แต่ถ้าใครชอบทำกับข้าวมาพักแบบพูลวิลล่าก็สามารถทำอาหารทานได้เองครับ

044 009 100

www.facebook.com/myozonekhaoyai

www.myozonekhaoyai.com

Comments

comments