Sofitel Krabi Phokeethra Golf and Spa Resort ( โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท )

วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปที่นี่กันอีกซักรอบ ที่นี่ผมเคยไปรีวิวมาให้เพื่อนๆ ชมกันมาแล้วประมาณ 4 ปีเห็นจะได้ละ เลยอยากจะพาไปอัพเดทกันซักนิดว่าที่นี่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง มีอะไรใหม่ๆ เพิ่มมารึเปล่า

อย่างที่รู้กันแหละเนอะว่า ถ้าให้บอกว่าโรงแรมไหนที่สระว่ายน้ำกว้างที่สุดในเมืองไทย ที่นี่ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ครองแชมป์อยู่เหมือนเดิม เพราะสระมีเนื้อที่ถึง 7,000 ตร.ม. เรียกว่ายากจะหาใครมาทำลายสถิติได้เนอะ แต่จากที่เคยไปครั้งก่อน สระกว้างจริงฮะ แต่ความรูสึกเหมือนสระขาดอะไรไปสักอย่าง เหมือนสระอย่างเดียวก็จะดูแปลกๆ ณ เวลานี้เค้าเพิ่มเจ้า Wibit เข้ามาประจำการในสระหลักของเค้าแล้วนะ หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่ามันคืออะไร เจ้า Wibit ก็คือ เครื่องเล่นเป่าลมลอยน้ำแอดเวนเจอร์นำเข้าจากเยอรมันนีที่สามารถปีนป่าย ฝึกความไวและการทรงตัว อันนี้ถ้าใครสายลุยๆ น่าจะชอบเพราะสนุกมากและเวลาเล่นก็เหนื่อยมากเช่นกันเพราะจะมีเป็นด่านต่างๆ หลายคนอาจจะเคยไปเล่นที่ So Hua Hin กันมาแล้ว ถ้ามากระบี่ถ้าคิดถึงเครื่องเล่น Wibit ก็อย่าลืมนึกถึงที่นี่ฮะ

สระว่ายน้ำโซนเด็กมีเครื่องเล่นและสไลเดอร์มาให้น้องๆ หนูๆ กันแล้ว ครั้งก่อนไม่มีฮะ อาจจะเล็กไปหน่อย แต่ก็เพียงพอให้เด็กๆ ได้สนุกกับการเล่นน้ำได้เนอะ และอีกไฮไลท์คือถ้าใครเข้าพักวันเสาร์ ที่สระเด็กจะมีปาร์ตี้โฟมให้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ ได้มาเล่นสนุกกันด้วยนะ

ถ้าพูดโดยรวมของสระเรื่องการออกแบบตกแต่งยังคงความเป็น โซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา เช่นเดิม

ข้างสระว่ายน้ำมีมุมกิจกรรมที่แฝงอยู่อย่างโต๊ะพูลและโต๊ะปิงปอง ยังไงไปเล่นหรือลองสังเกตกันดูเนอะ หลายคนไม่ทันสังเกตเลยไม่รู้ว่ามี

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีก และเป้นสิ่งที่เด็กๆ และผู้ใหญ่สายแฟมิลี่ชอบ คือลานกิจกรรมกลางแจ้งที่มีอุปกรณ์กีฬาและเครื่องเล่นให้เด็กๆ ได้มาขยับร่างกายและเล่นสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว ตรงนี้ผมชอบมากเพราะดูโปร่ง โล่ง กว้างขวางดี

อาหารเช้าที่ ห้องอาหาร มายา ยังคงถือเป็นจุดเด่นอีกจุดนึงที่ผมจะพูดเสมอ เพราะถ้าเทียบกับครั้งก่อนกับครั้งนี้ อาหารเช้าเค้าดีมากไม่ต่างกันเลย คือมีไลน์อาหารให้เลือกเยอะ โดยเฉพาะขนม เบเกอรี่ ไอศครีมมีครบ ถ้าใครจะมาพักกระบี่แล้วซีเรียสอยากได้อาหารเช้าดีๆ ผมแนะนำที่นี่ฮะ โดยห้องอาหารนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเช้าเวลา 06.30 น. และเปิดเป็นห้องอาหารทั่วไปจนถึง 23.00 น.

 

Exclusive Club Millésime คลับเล้าจน์สำหรับคนที่จองห้องแบบสวีทขึ้นไป สามารถมาใช้บริการนี้ได้ มีอาหารทานเล่น Afternoon Tea และเครื่องดื่มบริการตลอดทั้งวัน แวะมาทานได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงเย็นตั้งแต่ 17.30 น.-19.00 น. มีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมคานาเป้แบบไม่อั้น ถ้าเทียบกับคราวก่อน แทบไม่ต่างฮะ ดีเหมือนเดิม เพราะงั้นผมยังแนะนำให้จองห้องที่บวกคลับมาก็มาฝากท้องได้ที่นี่ทั้งวัน โดยเฉพาะสาย L นี่คุ้มมาก

ช่วงบ่ายมาทาน Afternoon Tea แบบบุฟเฟ่ต์กันแบบไม่อั้น คุ้มๆ

Kids Club ที่นี่ยังเหมือนเดิมฮะ อาจจะมีเปลี่ยนแปลงของเล่นบ้างนิดหน่อย  ก็ยังถือเป็นคิดส์คลับที่มีขนาดใหญ่ ของเล่นเยอะเหมาะกับให้เด็กๆ มาเล่นได้ทั้งวัน เค้ามีคนดูแลเด็กๆ ด้วยนะสำหรับ 5 ขวบขึ้นไป

สำหรับห้องพัก ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมครับ ยังไม่มีการรีโนเวทเปลี่ยนแบบห้องพักใหม่ แต่ก็มีการดูแลปรับปรุงให้ไม่เก่าไม่โทรมอยู่เหมือนเดิมนะ แค่ไม่ได้เปลี่ยนแบบไปแค่นั้นเอง อย่างห้องที่ผมมาพักครั้งก่อนกับครั้งนี้คือห้อง type เดิมฮะ คือ Opera Suite with Pool Access ห้องสวีท ขนาดพื้นที่ห้อง 103 ต.ร.ม. เลยตอบได้เลยว่าเหมือนเดิม แต่ต้องชมเรื่องความสะอาดและความใหม่เค้ายังดูแลได้ดีอยู่เหมือนเดิม ไม่โทรมเลย  ส่วนใครอยากดูห้อง type อื่นลองดูในรีวิวเดิมไอ้นะ ตามลิ้งค์นี้ > https://bit.ly/3umHWVK

ของใช้ในห้องน้ำตอนนั้นที่ผมไปจะเป็น Hermes ตอนนี้เปลี่ยนเป็นของ BALMAIN แทนละ

ห้องที่ไม่มีคลับเล้าจน์หรืออยากสั่ง Afternoon Tea มาทานมาถ่ายรูปสวยๆ ก็สั่งได้นะฮะ ( มีค่าใช้จ่าย )

มาดูจุดอื่นๆ ภายในโรงแรมกันบ้างดีกว่าเนอะ ริ่มจากล็อบบี้ที่ใหญ่โตอลังการของที่นี่ ล็อบบี้ยังเหมือนเดิมฮะ

ช่วงเย็นๆ เค้าจะมีการแสดงเป็นเรื่องเล่าของโรงแรมเกี่ยวกับพยานาคด้วย

ห้องอาหารเวเนเซีย เป็นห้องอาหารอิตาเลียน  เรียกว่าเป็นห้องอาหารขึ้นชื่อของเค้าก็ได้ฮะ โดยมีเชฟเป็นคนอิตาลีแท้ๆ มารังสรรค์อาหารให้เพื่อนๆ ได้ทาน แบบฉบับอิตาลีขนานแท้ รสชาติอร่อยจริง จากที่ลองทานมาอย่าลืมลองเนื้อและก็พิซซ่าของที่นี่ดู ตบท้ายด้วยของหวานด้วยนะ

ห้องอาหาร ไวท์โลตัส โดยห้องอาหารนี้จะบริการอาหารไทยและอินเดียเป็นหลัก ครั้งนี้เราทานแบบอาหารไทยล้วนๆ บางเมนูจะออกแนวอาหารไทยฟิวชั่น บางเมนูคืออาหารพื้นเมืองของภาคใต้ เรื่องรสชาติคืออะไรรสไทยๆ เลย

โซ สปา วิท ล็อกซิทาน สปาของที่นี่จะใช้ของ L’Occitane เป็นหลัก ภายในตกแต่งสไตล์ไทยแต่มีความหรูหรา สำหรับการนวดบอกเลยว่าอยากให้ลองฮะ สามารถบอกได้ว่าอยากหนักอยากเบา

ฟิตเนส มีบริการเช่นกัน

ทริปนี้เราได้ลองใช้บริการ one day trip ของโรงแรมด้วยเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัวของทางโรงแรมเลยครับมีแบบเหมาลำ หรือแบบจอยทริป ถ้าแบบจอยทริป
ราคาเริ่มต้น คนละ 2,000 บาท/คน ตั้งแต่ 9.30 น. – 14.30 น. โดยออกทัวร์เกาะท้องถิ่น 4 เกาะแบบส่วนตัว คือ
1. เกาะห้องลากูน
2. เกาะห้อง
3. เกาะเหลาลาดิ่ง
4. เกาะผักเบี้ย

สิ่งที่เตรียมให้
– ประกันชีวิต
– ค่าเข้าอุทยาน
– ชุดอาหารกลางวันแบบปิกนิก
-คานาเป่ อาหารว่าง และผลไม้ตามฤดูกาล
– เครื่องดื่มและน้ำดื่ม
– อุปกรณ์สน็อกเกิ้ล
– เสื่อ
-ผ้าขนหนู
– ผู้ดูแลจากโรงแรมโซฟิเทล

สรุปปิดท้าย

ทะเลกระบี่ ถือยังเป็นทะเลที่ผมรักและชอบมากที่สุดฮะ เพราะ น้ำทะเลใสตั้งแต่หน้าหาดโดยไม่ต้องออกเกาะยังได้เลย ประกอบกับโรงแรมนี้อยู่ออกมานอกเขตเมือง เพราะงั้นความสงบมาแบบเต็มๆ ตัวโรงแรมใหญ่แบบอลังการมาก สระว่ายน้ำใหญ่ที่สุดในไทย แถมตอนนี้ครบเครื่องขึ้นโดยเพิ่มเครื่องเล่น Wibit เข้ามา อาหารเช้าของที่นี่เพื่อนๆ น่าจะไม่ผิดหวังเพราะมีไอเท็มให้เลือกเยอะ ของดูมีคุณภาพ ห้องพักกว้างขวาง ดูสบายตา เตียงนอนคือดีแบบหลับสบาย ที่สำคัญโรงแรมเกือบจะติดหาดเพียงถนนกั้นนิดเดียว หน้าโรงแรมน้ำทะเลคือใสม๊ากกกก

075 627 800

https://www.facebook.com/SofitelKrabiPhokeethraGolfandSpaResort

http://www.sofitelkrabiphokeethra.com/

Comments

comments