Tolani Resort Kui Buri ( โทลานี รีสอร์ท กุยบุรี )

     อีกหนึ่งโรงแรมที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานและหลายคนน่าจะรู้จักดีอยู่แล้ว เพราะที่นี่เมื่อก่อนเค้าดังและฮิตมากๆ จากการออกแบบและดีไซน์ที่โดนใจและไม่ซ้ำใคร ประจวบเหมาะกับที่นี่ค่อนข้างฉีกออกมาจากตัวเมืองหัวหินคือเลยมาทาง ” กุยบุรี ” เลย บางคนอาจจะคิดว่าไกลหน่อยเลยมาตั้ง 30-40 นาที แต่เอาตรงๆ สิ่งที่ได้มาคือความสงบทั้งตัวโรงแรมและหน้าหาด คนไม่พลุกพล่าน ซึ่ง ณ เวลานี้กับสถานะการณ์โควิดระบาดแบบนี้ ที่นี่น่าจะเป็นการพักผ่อนที่ตอบโจทย์ของเพื่อนๆ อย่างแน่นอน

     เอาตรงๆ ก็ต้องยอมรับว่าที่นี่ชื่อเป็นที่ติดหู ติดตา จนคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนรู้จักโรงแรมเครือ X2 เลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่โด่งดังจริง คนจะติดปากกับชื่อเก่าของที่นี่คือ X2 กุยบุรี แต่ตอนนี้เค้าเปลี่ยนแบรนด์แล้วนะ ไม่ได้สวมแบรนด์ X2 ( ปัจจุบันเป็น Cross ) อีกต่อไป ตอนนี้เค้าคือแบรนด์ที่มีชื่อว่า ” Tolani Resort Kui Buri ( โทลานี รีสอร์ท กุยบุรี ) “

     และแน่นอนว่าเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแบรนด์แล้ว ภายในรีสอร์ทหรือสิ่งต่างๆ ในโรงแรมจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยมั้ย รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆ ไปชมว่าที่นี่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า ตามมาชมกัน

มาดูในส่วนของล็อบบี้กันก่อนเลย คือ ยังคงความเดิมๆ อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าแขกบางคนเห็นแค่ล็อบบี้ก็รู้แล้วแหละว่าโรงแรมนี้คือโรงแรมไหน กับเอกลักษณ์ที่ออกแบบเรียบง่าย กับต้นไม้ขนาดใหญ่ยืนเด่นสง่าอยู่กลางล็อบบี้ ถ้าจะให้บอกว่าล็อบบี้มีอะไรเปลี่ยนไปก็คือ โลโก้และชื่อของโรงแรมนี่แหละที่เปลี่ยน

ยังคงมีจักรยานให้ปั่นไปเที่ยวละแวกนี้ฟรีๆ อยู่เหมือนเดิมนะ

ลานกิจกรรมตรงใกล้ๆ กับล็อบบี้ก็ยังมีให้บริการอยู่เช่นเดิม เมื่อก่อนจะมีแค่ลานเปตองกับที่โยนห่วง แต่ครั้งนี้ที่เห็นคือมีของเล่นเพิ่มเข้ามาให้อย่างยิงธนูที่เจ้ายูนี่ชอบมาก ขนาดผมต้องไปหาซื้อมาให้ลูกยิงเล่นที่บ้านเองเลย มีขายที่ DECATHLON

     ที่นี่ยังรับ ” สัตว์เลี้ยง ” ให้มาพักอยู่เหมือนเดิมนะไม่ว่าจะเป็น หมา แมว แต่ยังคงจำกัดขนาดอยู่และก็การจะเอาสัตว์เข้ามาพักมีค่าใช้จ่ายด้วยอจจะต้องสอบถามตรงกับทางโรงแรมเพราะขึ้นอยู่กับจำนวนและขนาดของสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ

     บางคนกลัวว่า เอ๊ะ แล้วถ้าเราไม่ได้เอาสัตว์เลี้ยงไปแล้วเราจะได้พักห้องที่เคยมีสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักรึเปล่ากลัวเรื่องความสะอาด จากที่เคยได้ถามโรงแรมมาคือ เค้าทำความสะอาดและจะแยกโซนเลยว่าห้องพักไหนที่เอาสัตว์เลี้ยงเข้าพัก

ในส่วนของห้องพักก็ยังคงดีไซน์เดิมแทบทั้งหมด คือเป็นกำแพงหินสลับซับซ้อนที่แขกคนไหนมาเห็นก็ยังชอบเหมือนผมเนี่ยแหละ มากี่รอบก็ยังชอบไม่รู้ทำไมนะ อาจจะเพราะไม่ค่อยเหมือนใครด้วยมั้งก็เลยคิดว่าดีอยู่แล้วไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม ขอเริ่มจากพาไปชมห้องเริ่มต้นของที่นี่กันก่อนเลยคือห้อง Deluxe Garden Villa ห้องเริ่มต้นจะไม่มีสระสวนตัวนะตอนจองต้องเช็คดีๆ

ในส่วนของห้องน้ำจะเป็น rain shower ทั้ง 2 ฝั่งคือฝั่งด้านในและด้านนอก แนะนำว่าเวลามาใช้บริการห้องน้ำเสร็จพยายามปิดประตูห้องน้ำน่าจะดีที่สุดเพราะตอนเย็นๆ หรือกลางคืน ห้องนอนจะได้ไม่ต้องมียุงบินเข้ามา

เวลคั้มฟรุ๊ตยังคงเป็นสับปะรดหวานๆ กับพริกเกลือ ที่แช่อยู่ในตู้เย็น ให้เราหยิบทานแบบชื่นใจ

มีที่ปิดตากับอุดหูไว้ให้ใช้ด้วยสำหรับ 2 ท่าน เอาไว้ให้เราพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มโดยไม่ต้องมีอะไรรบกวน

Deluxe Ocean View Villa with Pool Access ห้องนี้ภายในจะเหมือนกับ Deluxe Garden Villa ทุกอย่าง จะต่างกันอยู่ที่ด้านนอก ห้องนี้จะสามารถเดิน connect กับสระว่ายน้ำส่วนกลางของโรงแรมได้เลย แต่เอาจริงๆ ห้อง type นี้คนอาจจะไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่เพราะดูไม่ค่อยส่วนตัวแขกเดินไปมาผ่านหน้าห้องได้ โดยทั้งโรงแรมมีห้องแบบนี้แค่ห้องเดียวเท่านั้น

Deluxe Pool Villa น่าจะเป็นห้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดละสำหรับที่นี่ ตัวภายในห้องจะเหมือนกับ 2 type ที่กล่าวมาด้านบนทุกอย่าง แต่จะต่างกับที่ห้องนี้จะมีสระส่วนตัวและพื้นที่สวนที่มากขึ้น

Deluxe Ocean Front Pool Villa ห้อง type นี้ก็จะเหมือน type ที่กล่าวมาอีกนั่นแหละ แต่จุดเด่นของห้องนี้คืออยู่ด้านหน้าติดหาดเห็นวิวทะเลตรงหน้า ค่อนข้างส่วนตัวระดับนึงเลย ใครชอบมองทะเล ฟังเสียงคลื่นตลอดเวลาแนะนำห้องนี้ แต่อจจะต้องจ่ายแพงขึ้นและแย่งกันจองนิดนึงเพราะมีแค่ไม่กี่หลังเอง

Luxury Oceanfront Pool Villa หลังนี้จะมีแค่หลังเดียวของโรงแรม โดยจะมี 2 ชั้น 2 ห้องนอน อยู่ติดหน้าหาดติดทะเลเหมือนกัน แต่สระส่วนตัวจะยาวกว่าชาวบ้านเค้าเป็นพิเศษ ห้องน้ำด้านบนมีอ่างจากุชชี่ให้แช่ด้วย

Royal Oceanfront Pool Villa เป็นวิลล่า top สุดของที่นี่ มี 2 ห้องนอน และห้องนั่งเล่นแยกออกมาอีกหลังนึงต่างหาก อยู่ติดหน้าหาดเช่นกัน เอาจริงๆ ตอนผมไปห้องนี้เค้ากำลังปรับปรุงอยู่เลยขอเอาภาพเก่าที่เคถ่ายไว้มาให้ชมคร่าวๆ เนอะ คิดว่าน่าจะไม่แตกต่างจากเดิมสักเท่าไหร่

สระว่ายน้ำส่วนกลางของโรงแรมที่ใครเห็นรูปก็รู้แล้วว่าที่นี่คือโรงแรมอะไร ถือเป็น Signature ของเค้าเลย มีไม่กี่โรงแรมหรอกที่คนเห็นแค่แว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าโรงแรมไหน

ตรงจุดริมสระ ช่วงบ่ายก็ยังมีบริการน้ำดื่ม ผลไม้และของทานเล่นให้ทานฟรีอยู่เหมือนเดิม แต่อาจจะดร๊อปลงไปหน่อยเพราะคราวก่อนมีไอติมให้ด้วย

MOLANO RESTAURANT

     ห้องอาหารหลักของที่นี่เปลี่ยนชื่อละฮะ จากเมื่อก่อนคือ 4K แต่โดยรวมห้องอาหารการจัดวางตกแต่งยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไรมากนะ

ยังคงมีจุดให้นั่งเล่นและถ่ายรูปเหมือนเช่นเคย

มาดูในส่วนของอาหารเช้าของที่นี่กันเนอะ เอาตรงๆ เมื่อก่อนอาหารเช้าเค้าคือไฮไลท์เลยนะ มาคราวนี้อาหารเช้าก็ยังคงดีงามอยู่เช่นเดิม ถึงเค้าจะเปลี่ยนแบรนด์ไปแล้วแต่ขอปรบมือให้โรงแรมที่ยังเก็บความดีงามของอาหารเช้าแบบเดิมไว้ ยังคงมี ” Champagne Breakfast “ ให้ทานไม่อั้นตอนเช้าเช่นเคย มีน้ำมะพร้าวเป็นลูกๆ ให้ทานได้เรื่อยๆ มีน้ำส้มคั้นสดที่ให้แขกลงมือคั้นด้วยตัวเองคือใครจะว่าไม่สดไม่ได้นะคั้นเองกับมือ ส่วนเรื่องอาหารยังเป็นอาหารที่สั่งให้ทานได้ไม่อั้นอยู่เช่นเดิมเหมือนเมนูอาหารตามสั่งอันนี้ชอบมากคือถูกปากเหมือนเช่นเคย ส่วนไลน์อาหารก็มีให้ตักคุณภาพดีเหมือนเดิม

ตอนนี้ทางโรงแรมเค้ามี ” Shabu Lover “ ตี้ชาบูมีทั้งแบบ เนื้อ( วัวกับหมู ) ราคา 2,290 บาท ซีฟู๊ดราคา 2,590 บาท ส่วนรวมทั้งเนื้อและซีฟู๊ด ราคา 2,990 บาท มาเป็น set แบบนี้เลย ตัวน้ำจิ้มอร่อยนะ แต่ราคาแอบดูแรงไปนิดนึง แต่ถ้าใครขี้เกียจออกไปข้างนอกก็ลองทานชาบูที่นี่ได้ บรรยากาศริมทะเลเนอะ

หรือใครไม่ใช่สายชาบูคือไม่ชอบ ก็ลองทานอาหาร a la carte ของที่นี่ได้ครับ เอาตรงๆ ส่วนตัวชอบอาหารของที่นี่มาก ไปทุกครั้งก็ติดใจทุกครั้ง เค้าทำอาหารอร่อยจริง

ตอนนี้มีไอติมน่ารักๆ รูปน้องหมา น้องแมว หลากหลายรสชาติให้ลองสั่งทานกันด้วยฮะ

สรุปปิดท้าย

     ถึงจะเปลี่ยนแบรนด์ไปแล้วแต่ความคลาสสิคและกลิ่นอายที่ทุกคนชอบสำหรับที่นี่ก็ยังคงอยู่เช่นเดิม คือ สงบ ส่วนตัว อาหารเช้าดีเหมือนเดิม อาหารอร่อยไม่เปลี่ยน เหมาะมากกับการมาพักผ่อนกับธรรมชาติด้วยระยะทางอาจจะเลยหัวหินออกมาหน่อยสัก 30-40 นาที แต่ด้วยสถานะการณ์โควิดระบาดแบบนี้ ที่นี่คือคำตอบฮะ

032 510 466

www.facebook.com/tolani.kuiburi

www.tolanihotels.com/tolani-resort-kui-buri

Comments

comments