ไป ” ญี่ปุ่น ” ครั้งแรก อยากเจอ *ซากุระ *หิมะ *ฟูจิซัง ไปช่วงไหนดี ?

มือใหม่หัดเที่ยวกับการไปประเทศญี่ปุ่นครั้งแรก แล้วคิดว่านานๆ มาทั้งทีอยากจะเห็นสิ่งที่เป็นไฮไลท์ๆ ของประเทศเค้าให้เยอะมากที่สุด แบบไปทีเดียวถือว่าคุ้มเลย แล้วมาถามผมว่าควรไปช่วงไหนคุ้มสุด ? ผมตอบได้เลยครับว่าประมาณ ปลาย ก.พ. – กลางเมษา เพราะอะไรหรอ ? ก็เพราะว่าทริปนั้นคุณจะได้เห็นทั้ง ? ทีมซากุระ ? ❄️ ทีมหิมะ ❄️? ทีมฟูจิซัง ? ได้ทั้งหมดภายในทริปเดียว

อย่างทริปล่าสุดที่ผมไปช่วง 21 ก.พ. – 3 มี.ค. ก็เจออย่างที่ผมได้กล่าวมาแล้วฮะ เพราะอย่างนั้นในรีวิวนี้จะแนะนำวิธีเดินทางพาเพื่อนๆ ไปพบเจอสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นกัน

ก่อนอื่นสิ่งแรกนอกการวางแผนแล้วคือ ” การจองตั๋วเครื่องบิน ” ใช่มั้ย ?

สำหรับการเดินทางจากเมืองไทย ทริปนี้เราใช้บริการของ NokScoot  “บินไกล สบายกว่า ราคาคุ้ม” มีเที่ยวบิน บินตรงจากดอนเมือง-โตเกียว ทุกวัน และจากดอนเมือง-โอซาก้า ทุกวันเหมือนกัน

นกสกู๊ตเป็นสายการบินราคาประหยัดที่บินด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 777 ลำใหญ่ นั่งสบายกว่า เหยียดขาได้ยาว ไม่เมื่อย ไม่อึดอัด

ไฟร์ทบินเวลาจากไทยไปโตเกียวคือถือว่าดีเลยนะ ไปถึงสนามบินนาริตะประมาณ 10.30 น. เรียกได้ว่าถ้าใครยังไหวก็เที่ยวต่อได้เลยไม่เสียเวลา ขากลับก็ขึ้นเครื่องตอน 13.55 น. เวลาดีจริง เราไม่ต้องตื่นเช้าแบบขี้ตาแฉะรีบไปสนามบิน ตื่นสบายๆ ไปแบบชิวๆ ได้เลยไม่ต้องรีบเร่งอะไรขนาดนั้น

ส่วนเรื่องราคาหน่ะหรอ เนื่องจากเป็นสายการบินโลว์คอร์สเนอะ ราคาก็ถือว่าดีงามเอาจริงๆ ไป-กลับ โตเกียวราคาไม่ถึงหมื่นบาทไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนึงจะเห็นราคาไปญี่ปุ่นได้ถูกขนาดนี้ บางทีบินภายในประเทศยังแพงกว่าไปญี่ปุ่นเลยเนอะ อย่างเช่น ไป-กลับ สมุยบ้านเรานี่แหละ

ส่วนใครกะไปช๊อปปิ้ง ไปซื้อของตุนของต้องการจะเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าก็สามารถเพิ่มได้เลยตอนจอง จะถูกกว่ามาซื้อแยกตอนหลังต่างหากนะ  ลองคำนวนและเพิ่มกันดูฮะ หรือใครอยากจะเอาอาหารและเครื่องดื่มด้วยก็มีเป็นแพ็คให้เลือกเหมือนกัน ลองดูๆ

สำหรับใครงบถึงและไหวแนะนำจริงๆ จองแบบ ScootBiz เถอะ เคยลองนั่งแบบ Economy ขาไป ขากลับนั่ง ScootBiz บอกเลยความสะดวกสบายต่างกันเยอะ

• อย่างแรก เลยตอนไปเช็คอิน Eco ต้องต่อคิวอย่างที่รู้กันเนอะ แถวยาวจนจะไปถึงตัวเครื่องบินอยู่แล้ว 555 เรียกได้ว่ายืนเมื่อยอ่ะ ถ้าเป็น ScootBiz จะมีที่เช็คอินต่างหากให้เฉพาะเลยไม่ต้องไปต่อคิวให้วุ่นวาย

• อย่างที่ 2 เรียกขึ้นและลงเครื่องก่อนใคร

• อย่างที่ 3 ปกติถือของขึ้นเครื่องได้ 7 โล ไม่เกิน แต่นี่ให้ถึง 15 โลเลย

• อย่างที่ 4 โหลด นน. กระเป๋าได้ 30 โล โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วนาจา

• อย่างที่ 5 มีอาหารและเครื่องดื่มให้ 1 set

• อย่างที่ 6 เลือกที่นั่งได้

• อย่างที่ 7 ที่นั่งใหญ่กว่า  เนื้อที่วางขากว้างกว่า เบาะปรับเอนได้เยอะกว่า มีที่เสียบไฟให้ด้วย

• อย่างที่ 8 ตอนรับกระเป๋าเดินทางก็มาก่อนเค้าอีก

บางคนอาจจะอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพ ผมทำคลิปสั้นๆ เปรียบเทียบให้เห็นแบบค่อนข้างละเอียดระหว่างบิน Economy กับ ScootBiz ต่างกันยังไง ตามคลิปด้านล่างเลย

 

อยู่ญี่ปุ่นเดินทางไปเที่ยวยังไงไม่ให้แพง ?

จากแพลนที่ผมได้วางไว้ ไปดูซากุระ , หิมะ , ฟูจิ ใช้ JR Tokyo Wide Pass แบบ 3 วันก็พอละฮะ ปกติเจ้าพาสตัวเนี้ยต้องซื้อภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ตอนนี้ซื้อผ่าน KKday มีพาส JR Tokyo Wide Pass + GALA Yuzawa Snow Resort ( รวมกระเช้าขึ้น-ลง , รองเท้าบูท , ถาดเลื่อน )ในราคา 3,709 บาท หรือใครอยากจะเรียนสกีด้วย ไหนๆ ไปทั้งทีใช่ป่ะ ทาง KKday เค้าก็มีลองเข้าไปดูที่แอพของ KKday กันเนอะ

ส่วนใครอยากได้แพ็คเกจแบบ advance กว่านั้นแบบไปเรียนสกี เรียนสโนว์บอร์ดด้วย ( มีสอนเป็นภาษาไทย ) ครั้งนึงในชีวิตเนอะ เค้าก็มีแพ็คเกจให้เลือกเช่นกันตามในภาพด้านล่างเลย ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปครับ

ใครสนใจแพ็คเกจไหน หรือตั๋วพาสอะไร เข้าไปในลิ้งค์นี้ของ KKday >>  http://bit.ly/2uGbfDC ถูกและสะดวกมากครับ ลองเข้าไปเลือกกันดู

※ วิธีการแลกรับตั๋ว ※

・แสดงใบ voucher พร้อมหนังสือเดินทางจองคุณที่เคาน์เตอร์แลกรับตั๋ว

・จุดแลกรับตั๋ว: JR East Japan Travel Service Center
สถานที่ตั้ง: Tokyo Station Marunouchi (North Exit)
เวลาทำการ: 07:30 – 20:30 น.

*** ซากุระแรกของญี่ปุ่น ***

ที่นี่คือ Destination ที่ผมวางแผนจะมาดูซากุระแรกของญี่ปุ่นสำหรับทริปนี้เลย ที่เมือง Kawazu จะมีดอกซากุระสายพันธุ์คาวาซุ ที่จะบานก่อนใครเค้าเพื่อน กว่า 8,000 ต้นเรียบแม่น้ำกว่า 4 กิโลเลยฮะเรียกว่าเดินดูซากุระไปกลับนี่ 8 กิโลเลยนะ

” ดอกซากุระ ” ที่ปีนึงจะออกดอกมาให้เราเชยชมเพียงไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะร่วงโรย การวางแผนจะไปยลโฉมของซากุระนี่ต้องวางแพลนให้ดีๆ และต้องทำใจกับสภาพลมฟ้าอากาศที่ญี่ปุ่นให้มากๆ

ช่วงเทศกาล Festival ของที่นี่จะเริ่มประมาณช่วงกลางๆ ก.พ. – ต้นๆ มี.ค. แต่ช่วงพีคจริงๆ น่าจะอยู่ช่วงวันที่ 20 ก.พ. – ต้นมีนา ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะ

ส่วนใครไมทันปีนี้ปีหน้าวางแพลนมาที่นี่เชื่อผม เพราะคุ้มที่จะมายอมรับเลยว่าที่นี่สวยมากจริงๆ ผมว่าเพื่อนๆ ต้องชอบ ที่สำคัญของกินเพียบไม่ต้องห่วง

สำหรับการเดินทาง

โดยใช้ JR Tokyo Wide Pass แบบ 3 วัน นั่งไปถึงที่นี่ได้เลย แต่ต้องเป็นขบวน Limited Express สาย ODORIKO เท่านั้นนะ จะยิงยาวไปถึงสถานี Kawazu Station ได้เลยแบบไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ( ต้องจองตั๋วทั้งไปและกลับนะจ๊ะ )

?? M a t s u d a S a k u r a F e s t i v a l ??

อีกหนึ่งจุดชมวิวซากุระเดือนกุมภาพันธ์ ที่ออกดอกผลิบานก่อนใครในญี่ปุ่น สายพันธุ์ Hayazakisakura มีกว่า 260 ต้น เด่นเป็นสง่าบานสะพรั่งเป็นสีชมพูอยู่บนภูเขาสูง

ยอมรับจริงๆ ฮะว่าผมคิดผิดที่ว่าจุดนี้เป็นแค่ทางผ่านที่ผมจะเดินทางไป Kawazu แบบจะแวะก็ได้ไม่แวะก็ได้ แต่ !!! ผิดคาดฮะ เพราะที่นี่มีทั้งความสวยงามของซากุระ และยังเห็นโฉมหน้าของ ” ฟูจิซัง ” จากจุดนี้ได้พร้อมกันทีเดียวเลย ถือว่าเป็นชุดชมวิวและชมซากุระที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ที่นี่จะจัดงาน Sakura Festival ประมาณกลางเดือน ก.พ. – กลางเดือน มี.ค. พร้อมๆ กับเมือง Kawazu เลย

สำหรับการเดินทางมาที่นี่สามารถมาด้วยรถไฟสาย Odoriko มาลงที่สถานี Odawara ( ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่ม 220 เยน ) จากนั้นเดินประมาณ 25 นาที ถ้าจะให้แนะนำคือนั่งรถบัสดีกว่า อยู่ตรงสถานี Matsuda ( ใกล้ๆ สถานี Shin-Matsuda ) มาจอดถึงที่งานเลยสะดวกมาก

*** หิมะ Gala Yuzawa ***

อีกหนึ่งลานสกีที่ใกล้โตเกียวม๊ากกกก และเดินทางสะดวกสุดแล้วสำหรับลานสกีในญี่ปุ่นถ้าเราอยู่โตเกียวนะ นั่งรถไฟชินคังเซนประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงสถานี Gala Yuzawa ที่นี่เป็นลานสกีที่ใช้สถานีเดียวกับสถานีรถไฟ JR เลย เพราะฉะนั้นถ้าเราออกจากรถไฟเดินออกมาก็คือที่จำหน่ายตั๋วขึ้นลานสกีได้เลยฮะ ส่วนใครที่ซื้อแพ็คเกจจาก KKday มาเค้าก็จะมีตั๋วให้มาแล้ว ก็แค่เอาไปยื่นที่ด้านหน้าเพื่อแลกตั๋วจริงเพื่อขึ้นลานกระเช้ากับตั๋วรองเท้าบูทกับถาดเลื่อน

ไฮไลท์ของที่นี่คือหิมะนี่แหละ 555 แต่ระหว่างทางการขึ้นกระเช้าคือจะเห็นวิวมุมสูงแบบหิมะปกคลุมทั่วทั้งเมือง ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงลานสกีด้านบนเลย เนื้อหิมะของที่นี่ค่อนข้างนุ่มและละเอียดเวลาเราเล่นถาดเลื่อนไม่ต้องกังวลเลยฮะสบายๆ ตอนนี้ตรงโซนถาดเลื่อนเค้าทำอุโมงค์บันไดเลื่อนขึ้นให้แล้วหลังจากเมื่อก่อนต้องเดินขึ้นเนินลากถาดเลื่อนกันเอาเองถือว่าสะดวกสบายมากขึ้นน่าจะตอบโจทย์เพื่อนๆ นะที่หาแหล่งเล่นหิมะใกล้ๆ โตเกียวแบบง่ายๆ เดินทางสบายๆ ไปเช้าเย็นกลับได้ และหิมะของที่นี่จะมีถึงประมาณต้นหรือปลาย พ.ค. เลยครับ ( แล้วแต่สภาพอากาศ )

วิธีการเดินทาง จากสถานีโตเกียว นั่งชินคังเซนต่อเดียวถึงเลยฮะ ประมาณ 90 นาที

*** ฟูจิซัง ***

อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่นที่ใครพูดถึงญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึงสิ่งนี้ครับ ” ภูเขาไฟฟูจิซัง ” ยิ่งมีเจ้าพาส JR Tokyo Wide Pass นี้แล้วไม่มาดูฟูจิก็คงไม่ได้สินะ

การเดินทางจะต้องไปเริ่มต้นที่สถานี Shinjuku ครับ และอย่าลืมไป reserved seat จองที่นั่งอีกเช่นเคย ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้นั่งไม่รู้ด้วยนะ นั่งไป 62 นาที เราจะต้องไปลงที่สถานี OTSUKI แล้วต่อรถไฟ Fujisan express หรือ Fujikyu Railway Rapid  for KAWAGUCHIKO ใครใช้พาส Tokyo Wide Pass ผ่านฉลุย แต่ถ้าใครใช้ JR Pass พาสใหญ่จะต้องจ่ายเพิ่มนะ 1,140 เยน

ถ้าใครไปตรงกับวัน เสาร์ – ฮาทิตย์ จะมีรถไฟขบวนพิเศษสามารถนั่งรถไฟ LTD. Exp Narita Express ต่อเดียวไปถึงสถานี Kawaguchiko ได้เลยฮะ

ปล.ถ้าใครใชพาสใหญ่ JR Pass จะมีนายสถานีมาเก็บค่าโดยสารเพิ่มเหมือนข้างบนที่กล่าวมาครับ

เช่ารถขับดีมั้ย ?

ถ้ายิ่งนั่งกันเยอะตัวหารก็เยอะบางทีอาจจะถูกกว่านั่งรถไฟซะด้วยซ้ำ อาจจะใช้เวลาเดินทางนานกว่าไปหน่อย แต่ขอบอกว่าระหว่างทางและระยะทางที่ขับรถคุณจะเห็นความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มเปี่ยมแน่นอน แต่ที่แน่ๆ คือสะดวกกว่าแวะตรงไหนก็ได้ตามใจเรา ถ้าถามผมว่าการเช่ารถเหมาะกับการเดินทางแบบไหน ที่เหมาะจริงๆ เลยนะคือ มีผู้สูงอายุหรือเด็กไปด้วยการเช่ารถนี่เหมาะที่สุดละครับ ไม่งั้นเดินกันขาลาก ขึ้นลงบันได้ รถไฟ อาจจะไม่ไหวเอาง่ายๆ

ผมเคยได้ใช้บริการของ RentConnected เช่ารถได้ง่ายกว่า เน้นรถแบบครอบครัวนั่งกันแบบ 6 ที่นั่งรุ่น Nissan Serena 3 วัน ราคา 15000+ ตกคนละไม่ถึงพันบาท/วันสำหรับค่าเช่ารถ ถือว่าสะดวกมาก มีรถให้เช่าหลากหลายแบบมาก ราคาไม่แพงด้วยฮะ

สนใจจองผ่าน www.rentconnected.com ได้เลย

ทริปนี้ใช้เนตของอะไร ?

ต้องขอเล่าก่อนว่าเคยมีอดีตที่เลวร้าย 555 กับซิมเนตอยู่ทริปนึง คนละค่ายกับค่ายนี้นะตอนนั้นเมื่อ 2 ปีก่อนก็มาที่ญี่ปุ่นนี่แหละ สัญญาณแทบใช้เนตไม่ได้เลย โทรเข้า Call Center ก็บอกว่าทำงานปกติ แต่เนตที่ใช้ใช้ไม่ได้ แก้ไปแก้มาก็ใช้ไม่ได้อยู่ดีก็เลยไม่แก้ละปลง 555 ก็พึ่งพาแต่ Pocket Wifi มาตลอด แต่มันก็ผ่านมานานแล้วเนอะจนมาปัจจุบันมีซิมเนตเพิ่มมากขึ้น โปรเร้าใจขึ้น ในราคาที่ไม่แพง และสัญญาณก็น่าจะดีขึ้นกว่าปีแรกๆ ก็เลยลองเปิดใช้ของ ” AIS Sim2Fly “ เชื่อมั้ยว่าทริป 10 วันที่ผมไปเนตไม่มีปัญหาเลย ใช้ได้ลื่นปรื๊ดๆ ออกไปต่างจังหวัดก็ใช้แบบไม่มีปัญหา ดีละ !!! คราวหน้าจะได้ใช้ซิมอีกเพราะไม่ต้องคอยชาร์จไฟกลัวแบตหมดของ Pocket Wifi แถมราคายังถูกกว่า ซื้อมา 2 เบอร์แยกใช้ได้ 2 เครื่อง ไม่เหมือน Pcoket Wifi ต้องตัวติดกันตลอดแยกกันไปช๊อปไปเที่ยวก็ลำบาก

ไปซื้อได้ตามศูนย์ AIS ราคาแพ็คละ 399 บาท ได้เน็ตถึง 5GB อยู่ได้ยาวถึง 8 วัน เรียกได้ว่าเหลือเฟือ แต่ไม่เหมาะสำหรับคนติดยูทูปนะครับจะกินเนตมากไม่ใช่เฉพาะซิมนะ pocket wifi ก็เหมือนกัน

ไม่ใช่เฉพาะญี่ปุ่นนะ ซิมตัวนี้ใช้ได้หลายประเทศ ใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/

Comments

comments